Q-Life

​Noursabah Boutique Bed Bangkok โฮสเทล 3 วัฒนธรรม

Text : Duckkiez Photo : Vipa Vadi



     ใครจะรู้ว่าในชุมชนมุสลิมพญาไทจะมีโฮสเทลที่ออกแบบตกแต่งในสไตล์โคโลเนียลโดยผสมผสานวัฒนธรรมไทย จีน และมุสลิมเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ซึ่งโฮสเทลที่กำลังพูดถึงนี้ตั้งอยู่ในซอยเพชรบุรี 7 เป็นตึกสีขาวสูง 6 ชั้น นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศต่างรู้จักในชื่อ Noursabah Boutique Bed Bangkok

     “เดิมทีที่นี่เป็นบ้านเช่าเก่าๆ โทรมๆ ถ้าจะทุบทิ้งแล้วปล่อยให้เป็นพื้นที่ว่างก็เสียดาย ดังนั้น เลยตัดสินใจทำโฮสเทลเล็กๆ เพราะอยากพัฒนาพื้นที่ย่านนี้ให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวโดยเลือกหยิบตัวตนของผมและน้องสาว (พรรณวดี โอรพันธ์) ที่เป็นคนไทย-มุสลิม แต่เติบโตในชุมชนจีนแถวตลาดโบ๊เบ๊มาเป็นคอนเซปต์ในการตกแต่งโฮสเทลให้มีกลิ่นอายของทั้งสามวัฒนธรรม” พีรยุทธ โอรพันธ์ กล่าว



     คำว่า Noursabah (ณุศบา) มีความหมายว่า แสงยามเช้า โฮสเทลที่พักนี้จึงล้อมรอบด้วยกระจกใสที่ทำหน้าที่รับแสงและลมธรรมชาติ บรรยากาศจึงโปร่งโล่ง วัฒนธรรมไทยและจีนถูกถ่ายทอดผ่านช่องหน้าต่างที่ตกแต่งด้วยไม้ฉลุลายไทย ประตู หน้าต่างเป็นบานเฟี้ยม ส่วนวัฒนธรรมมุสลิมแม้จะไม่มีให้เห็นในรูปแบบของของตกแต่ง แต่ก็สัมผัสได้ผ่านผ้าปูสำหรับทำละหมาดที่มีให้ทุกห้องพัก การถอดรองเท้าก่อนเดินเข้าที่พัก ป้ายชื่อที่ใช้ตัวอักษร Arabic Dance และโลโก้ที่ดูคล้ายดอกไม้ทางตะวันออก ซึ่งถ้าดูให้ดีจะเห็นลายเส้นที่ชดช้อยแบบไทย



     ในส่วนของสีสัน ชั้นล็อบบี้ถูกคุมโทนด้วยสีขาว สีเทา และสีดำ ขณะที่ห้องพักทั้ง 13 ห้องมีสีสันที่ต่างกันออกไป (พูดง่ายๆ คือ 13 สี 13 ห้อง) เฟอร์นิเจอร์ไม้ภายในห้องอย่างโต๊ะและเตียงทาสีโทนเดียวกันกับสีผนังและพื้นกระเบื้อง และด้วยความที่พื้นที่ภายในห้องค่อนข้างจำกัดจึงไม่มีโซฟาวาง แต่นั่นก็ไม่ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกว่าห้องพักขาดอะไรไป อีกทั้งยังไม่รู้สึกอึดอัด เพราะมีกระจกใสรอบๆ ห้อง ห้องจึงดูสว่าง ปลอดโปร่ง



     “ความโดดเด่นของ Noursabah อยู่ที่การหยิบวัฒนธรรมไทย จีน และมุสลิมมาเป็นคอนเซปต์ในการออกแบบตกแต่ง กิมมิกเล็กๆ อย่างชื่อห้องพักที่ตั้งตามชื่อถนนหรือสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยือนให้ได้ เช่น Silom Morning Sky และ Phaya Thai Blue Dawn นอกจากนี้ ยังมีอาหารที่กินง่ายๆ และเครื่องดื่ม เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซีเรียล โยเกิร์ต ชา กาแฟ น้ำผลไม้ให้บริการตลอด ผู้เข้าพักหยิบไปรับประทานได้ฟรีๆ ซึ่งนี่เป็นความตั้งใจของเราเพราะอยากให้ทุกคนรู้สึกว่าที่นี่คือบ้าน เวลาอยากกินอะไรก็ลงมาที่ห้องครัว ซึ่งไม่มีบ้านไหนที่ต้องเสียเงินเวลาหยิบอาหารในห้องครัวไปรับประทาน” พรรณวดีกล่าวปิดท้าย

     Noursabah ไม่ได้มีเพียงที่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังมีที่พัทยาด้วยในชื่อ Noursabah Boutique Culture Villa ที่ออกแบบตกแต่งในคอนเซปต์เดียวกัน แต่มีจุดต่างกันที่จำนวนห้องพักซึ่งมีทั้งหมด 20 ห้องพัก และมีสระว่ายน้ำลายหินอ่อน



     ซอยเพชรบุรี 7
     โทร. 0-2215-3901, 0-2214-3901
     www.noursabah.com
     Facebook : noursabahbkk
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี