Q-Life

รู้จัก “ชาโยคี” ที่เขาว่ามีดีที่ดีท็อกซ์





 

      ชาเป็นเครื่องดื่มที่เก่าแก่ของโลก และเป็นเครื่องดื่มที่ผู้คนนิยมดื่มกันมากที่สุด รองจากน้ำเปล่า ความบังเอิญยุคอดีตกาลในการค้นพบเครื่องดื่มที่ทำจากใบพืชที่เรียกว่า “ชา” จากชาไม่กี่ชนิด ปัจจุบันมีการปรุงชาออกมามากมายจนนับไม่ถ้วน บ้างก็แพร่หลาย แต่อีกมากก็เป็นชื่อที่ไม่คุ้น “ชาโยคี” เป็นชาอีกชนิดหนึ่งที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่ค่อนข้างนิยมโดยเฉพาะในกลุ่มคนฝึกโยคะในซีกโลกตะวันตก

     ผู้ที่เผยแพร่ชาโยคีให้ชาวตะวันตกได้รู้จักคือ โยคีภาชัน ผู้เดินทางมาเป็นครูสอนกุณฑลินีโยคะ (โยคะที่เน้นการปลุกจักระหรือศูนย์พลังในร่างกายด้วยการทำอาสนะ+กำหนดลมหายใจเข้า-ออกจากแรงโดยแขม่วหน้าท้อง) ในการสอนโยคะของโยคีภาชันนั้นยังกระทำควบคู่ไปกับการแนะนำหลักการกินอยู่เพื่อสุขภาพอีกด้วย ระหว่างเรียนสอน มีการเสิร์ฟชาชนิดหนึ่งให้ลูกศิษย์ลูกหา จนทำให้ผู้เรียนติดอกติดใจ

     ชาของโยคีภาชันเป็นชาที่ปรุงตามศาสตร์อายุรเวช เป็นชาปลอดกาเฟอีน ไม่มีส่วนประกอบจากใบชา มีเพียงเครื่องเทศ 5 ชนิด ได้แก่ กระวานเทศ อบเชย กานพลู ขิง และพริกไทยดำ ซึ่งพริกไทยดำนี้ถือเป็นราชันแห่งเครื่องเทศที่ช่วยระบบการย่อย ต้านการอักเสบ และยับยั้งการเติบโตของจุลินทรีย์ ช่วงทศวรรษ 1970 ลูกศิษย์โยคีภาชันเปิดร้านอาหารและจำหน่ายชาชนิดนี้ด้วย เรียกกันว่า Yogi Tea หรือชาโยคี ภายหลังมีการนำไปใช้เป็นชื่อแบรนด์และผลิตออกจำหน่ายเป็นล่ำเป็นสัน

     ชาโยคีอาจมีความละม้าย “มาซาล่า ไจ” (Masala Chai Tea) ซึ่งเป็นชายอดนิยมในอินเดีย แต่มาซาล่า ไจ ที่มีส่วนผสมชาดำผสมเครื่องเทศ ขณะที่ชาโยคีส่วนผสมเป็นเครื่องเทศล้วนๆ สำหรับสรรพคุณเด่นๆ ของชาโยคีคือ บำรุงตับและไต และช่วยล้างพิษในร่างกาย จึงนิยมนำมาดีท็อกซ์ วิธีการที่แนะนำคือ ดื่มวันละ 3 ถ้วยเป็นเวลา 30 วัน แล้วพักร่างกาย 10 วัน ก่อนเริ่มกระบวนการดีท็อกซ์ใหม่

     ถามว่าการดีท็อกซ์ร่างกายนั้นจำเป็นหรือไม่ ในทางการแพทย์แผนปัจจุบันจะมองว่าไม่จำเป็นสักเท่าไรเพราะร่างกายมีกลไกในการขับพิษโดยธรรมชาติอยู่แล้วผ่านตับและไต ยิ่งคนที่ดูแลสุขภาพ เลือกรับประทานอาหารดีๆ ก็แทบไม่ต้องไปเข้าคอร์สล้างพิษอะไรเลย สำหรับคนที่ต้องการเร่งการดีท็อกซ์ การดื่มชาหรือรับประทานอาหารบางอย่างที่อ้างว่าดีท็อกซ์ได้นั้นอาจช่วยได้นิดหน่อย การดื่มบ่อยๆ ก็ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงอะไร เว้นแต่ว่าจะเป็นชาที่ทำจากใบชาที่มีกาเฟอีน อาจส่งผลในเรื่องของการขับปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อย หรือจนถึงขั้นร่างกายขาดน้ำกันเลย ดังนั้น ต่อให้เป็นชาจากธรรมชาติ จึงควรดื่มภายใต้คำแนะนำของนักโภชนาการหรือผู้เชี่ยวชาญจะปลอดภัยยิ่งขึ้น
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี