Q-Life

ปักหมุด 6 ชุมชนน่าเที่ยวเมืองตะวันออก

 
 

Main Idea
 
  • การท่องเที่ยวในชุมชนนอกจากจะได้สัมสัมผัสกับธรรมชาติของท้องถิ่น และวิถีชีวิตของชาวบ้านอย่างแท้จริงแล้วยังช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย
 
  • ขอแนะนำ 6 ชุมชนน่าเที่ยวเมืองตะวันออกที่รับรองว่าไปแล้วจะไม่ผิดหวัง
       
       

 

     หากอยากหลีกหนีความวุ่นวายหรือความจอแจของเมืองลองมาเปลี่ยนบรรยากาศการท่องเที่ยวใหม่ๆ ไปกับชุมชนกันดีกว่าซึ่งการท่องเที่ยวแบบนี้นอกจากจะได้สัมผัสกับธรรมชาติของท้องถิ่น และวิถีชีวิตของชาวบ้านอย่างแท้จริงจนเหมือนได้รับการชาร์จพลังไปในตัวแล้วยังช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย ทั้งนี้หากจะว่าไปบ้านเราก็มีชุมชนทั้งใกล้และไกลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นที่แตกต่างกัน รอเปิดประตูต้อนรับผู้รักการเดินทางอย่างมากมาย

 
    



     ปักหมุด
1 : บ้านบางยอ จ.สมุทรปราการ

     อัตลักษณ์ชุมชน
     บ้านบางยอ เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชื่อของชุมชนเพี้ยนมาจากคำว่า บางยกยอ ซึ่งมาจากในอดีตชาวบ้านในชุมชนนิยมจับปลาด้วยเครื่องมือที่มีชื่อว่า ยอ เพราะพื้นที่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมีความชุ่มชื้นและอุดมสมบูรณ์ จึงมีสัตว์น้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้บ้านบางยอกลายเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย คือ มีสะพานภูมิพล ที่สร้างผ่านจุดตำบลบางยอ และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านต่างให้ความสำคัญและเคารพเป็นอย่างมากและแพร่หลาย คือ วัดกองแก้ว

     กิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชน
     สะพานภูมิพล มีอีกหนึ่งชื่อเรียกว่า สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสำหรับถนนวงแหวนอุตสาหกรรมที่เชื่อมระหว่างถนนพระรามที่ 3 ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนปู่เจ้าสมิงพราย และถนนกาญจนาภิเษก สะพานสายนี้ได้ชื่อว่าเป็นสะพานของพ่อ เพราะเกิดจากพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 ให้ทรงสร้างขึ้นเพื่อบรรเทาทุกข์ของประชาชนที่ต้องการข้ามฟากระหว่างฝั่งพระประแดงกับฝั่งพระนคร ลักษณะเด่นของสะพาน คือ สะพานขึงขนาด 7 ช่องการจราจร ด้านเหนือหรือสะพานภูมิพล 1 เชื่อมระหว่างแขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ กับตำบลบางยอ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ส่วนด้านใต้หรือสะพานภูมิพล 2 เชื่อมระหว่างตำบลทรงคะนอง กับตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ทั้งนี้ สะพานภูมิพลยังเป็นแลนด์มาร์กท่องเที่ยวสำคัญของช่างภาพที่ต้องการเก็บภาพบรรยากาศความสวยงามของวิวทิวทัศน์ของสะพานในยามค่ำคืน

     ในส่วนของวัดกองแก้ว ตั้งอยู่ริมคลองบางกะเจ้า ซึ่งเป็นคลองที่ผ่านทะลุ 3 ตำบล อันได้แก่ ตำบลบางกะเจ้า ตำบลบางกอบัว และตำบลบางน้ำผึ้ง ด้วยความที่หน้าวัดอยู่ติดกับคลองบางกะเจ้าจึงได้สร้างศาลาท่าน้ำสำหรับเป็นที่นั่งพักผ่อนและเป็นท่าสำหรับจอดเรือ สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้ คือ พระประธาน ซึ่งเป็นประติมากรรมรูปปั้นลงรักปิดทอง เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่งดงาม นามว่า พระพุทธชินศรีรัตนมหานุนีตรีโลกเชษฐ์ (หลวงพ่อใหญ่) และศาลาการเปรียญที่เป็นอาคารแฝดไม้สักทรงไทย ภายในมีธรรมาสน์สมัยอยุธยา ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ภาพไตรภูมิ ภาพพระเจ้าสิบชาติ ภาพพุทธประวัติ รวมทั้งมณฑปที่ประดิษฐานพระพุทธรูป รอยพระพุทธบาท และรูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาสวัด

     บางกะเจ้า พื้นที่สีเขียวรูปกระเพาะหมู จึงเป็นปอดกลางกรุงซึ่งมีอากาศบริสุทธิ์ให้สูดได้เต็มปอด ด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ จึงเป็นแหล่งออกกำลังกายชั้นดีของสิงห์นักปั่นจักรยาน และเหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุด 

     ผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชน
     ขนมดอกลำเจียก ดอกไม้ใบยาง

     อาหารพื้นถิ่น
     ปลาสลิดทอดกรอบ ต้มกะทิสายบัวปลาสลิด ข้าวห่อใบบัว ยำปลาสลิด ชะครามยำ

     การเดินทาง
     เดินทางโดยใช้ถนนสุขสวัสดิ์ถึงสามแยกพระประแดง เลี้ยวซ้ายสู่ถนนนครเขื่อนขันธ์ระยะทาง 1 กิโลเมตร จะถึงบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอพระประแดง เลี้ยวซ้ายและใช้เส้นทางถนนเพชรหึงษ์ ระยะทาง 2 กิโลเมตร เข้าสู่เขตตำบลบางยอ

     ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ  
     บ้านบางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
     องค์การบริหารส่วนตำบลบางยอ
     ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 10130 โทร. 0-2816-5049, 0-2461-3446
 

     

     ปักหมุด
2 : ตลาดบางคล้า ๑๐๐ ปี จ.ฉะเชิงเทรา

     อัตลักษณ์ชุมชน
     บางคล้าชุมชนที่มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 100 ปี มีชื่อมาจากพรรณไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ต้นคล้า ชุมชนแห่งนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยนาไร่และสวนผลไม้นานาชนิด เช่น สับปะรด มะพร้าว มะม่วง ฯลฯ ผู้คนในชุมชนมีทั้งชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีน มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และรักใคร่ปรองดองประหนึ่งพี่น้อง พื้นที่ในชุมชนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของร้านค้าและอาคารพาณิชย์ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และตลาดน้ำบางคล้า ๑๐๐ ปี

     กิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชน
     ตลาดน้ำบางคล้า เป็นตลาดที่มีโป๊ะยื่นลงสู่แม่น้ำบางปะกง โดยมีทั้งหมด 9 แพ ร้านค้าในตลาดมีทั้งตั้งอยู่บนโป๊ะและในเรือ สินค้าที่นิยมขายส่วนใหญ่เป็นอาหารคาว ขนมหวาน ผักและผลไม้ตามฤดูกาล น้ำตาลสด ของฝาก ของที่ระลึก รวมถึงสินค้า OTOP ที่มีชื่อเสียงของอำเภอบางคล้า ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีบริการล่องเรือเที่ยวเกาะลัด ซึ่งเป็นเกาะน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยจะได้ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบเกาะลัด ไหว้พระทำบุญและชมค้างคาวแม่ไก่ที่วัดโพธิ์ บางคล้า และไหว้สักการะพระสถูปเจดีย์พระเจ้าตากสินมหาราช

     ผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชน
     ข้าวเกรียบ

     อาหารพื้นถิ่น
     กุ้งเผา ผลไม้

     การเดินทาง
     ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา แล้วเดินทางต่อไปตามทางหลวงหมายเลข 304 (สายฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี) ประมาณ 17 กิโลเมตร แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3121 ไปอีก 6 กิโลเมตร เข้าตัวอำเภอบางคล้า

     ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ  
     ชุมชนอำเภอบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
     สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบางคล้า
     ที่ว่าการอำเภอบางคล้า ถนนเทศบาลพัฒนา 1 โทร. 0-3882-5513
 




     ปักหมุด
3 : หมู่บ้านบางเสร่ จ.ชลบุรี

     อัตลักษณ์ชุมชน
     ลองนึกภาพหมู่บ้านที่มีท่าเทียบเรืออยู่ที่ตรงกลางหมู่บ้าน โดยทางด้านซ้ายของท่าเทียบเรือจะเป็นหมู่บ้านบางเสร่ที่ยังมีผู้คนอาศัยกันอยู่อย่างเนืองแน่น ส่วนทางด้านขวาของท่าเรือจะเป็นร้านอาหารทะเลที่ตั้งเรียงราย นี่แหละคือเสน่ห์ของหมู่บ้านบางเสร่ 

     หมู่บ้านบางเสร่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพัทยามากนัก เป็นหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งหากมาที่นี่ก็จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวประมง บรรยากาศชายทะเลที่เงียบสงบ โดยอีกหนึ่งจุดเด่นของของบางเสร่คือ ร้านอาหารทะเลราคาไม่แพงที่มีให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อที่ความสดใหม่ และรสชาติแสนอร่อย เพราะว่าร้านอาหารที่นี่ส่วนใหญ่จะมีเรือหาปลาเป็นของตัวเอง ดังนั้น เมื่อหามาได้ก็จะนำขึ้นมาขายปรุงเป็นอาหารทะเลจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มชิมรสกันเลยทันที ส่วนร้านอาหารนั้นก็จะมีทั้งที่เป็นอาคารและแบบเป็นเพิง เรียกว่าชอบสไตส์ไหนก็สามารถเลือกเข้าไปนั่งชิมพร้อมชมวิวกันได้เลยในราคาที่ประหยัดเงินในกระเป๋า

     กิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชน
     หาดบางเสร่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของอำเภอสัตหีบ เป็นชายหาดที่ยาวประมาณ 1,500 เมตร ในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาจนมีความสวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนจำนวนมาก และยังมีร้านอาหารทะเลสดและราคาไม่แพงอยู่มากมายริมชายหาดไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวที่มาเยือน

     อ่าวบางเสร่ อยู่ทางด้านใต้ของบางเสร่ มีลักษณะเป็นอ่าวน้ำลึกเหมาะแก่การตกปลา ปลาที่ชุกชุมมาก คือ ปลาปะการัง หรือปลาเก๋า ซึ่งมีบริการเรือนำเที่ยวตกปลา

      ผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชน
      ปลาข้าวสาร ปลากะตัก

     อาหารพื้นถิ่น
     ขนมจีน ข้าวหลาม ขนมหน้าถั่ว ขนมก้นถั่ว ขนมหน้าหมู แจงลอน 

     การเดินทาง
     เดินทางจากกรุงเทพฯ มาตามทางถนนสายสุขุมวิท บางนา-ตราด ผ่านเมืองพัทยามาประมาณ 16 กิโลเมตร เรื่อยมาจนถึงหลักกิโลเมตรที่ 165 จะถึงที่ตั้งตำบลบางเสร่

     ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ  
     ต.บางเสร่ จ.ชลบุรี
     โทร. 0-3843-6139





     ปักหมุด
4 : บ้านมาบเหลาชะโอน จ.ระยอง

     อัตลักษณ์ชุมชน
     อีกหนึ่งปักหมุดที่ไม่ควรพลาดในการเที่ยวชุมชนคือ บ้านมาบเหลาชะโอน ซึ่งที่นี่เป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง มีความโดดเด่นในด้านเป็นหมู่บ้านหัตถกรรม แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการจักสาน รวมทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะทิวทัศน์โดยรอบบริเวณหมู่บ้านที่เรียบง่ายแต่งดงาม ยิ่งเมื่อขึ้นไปยังโบสถ์หินอ่อนของวัดสนามรัตนาวาส จะสามารถมองเห็นชายทะเลและหมู่เกาะบริเวณหาดวังแก้ว แหลมแม่พิมพ์ แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองระยอง รวมถึงบึงสำนักใหญ่ซึ่งเป็นบึงน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลาน้ำจืดนานาชนิด และมีต้นกระจูดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งด้วยเป็นแหล่งต้นกระจูดนี่เองจึงทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์จักสานกระจูด เช่น กระเป๋าหิ้ว กระเป๋าสะพาย กล่อง ตะกร้า ฯลฯ อันเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวบ้านมาบเหลาชะโอนทั้งสิ้น 

     กิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชน
     บึงสำนักใหญ่ สวนพฤกษศาสตร์จังหวัดระยอง โบสถ์หินอ่อนของวัดสนามรัตนาวาส มีที่พักให้เลือกอย่างหลากหลาย เช่น บ้านพักโฮมสเตย์ บ้านพักริมชายหาด เป็นต้น บริการล่องเรือชมธรรมชาติรอบบึงสำนักใหญ่

     นอกจากนี้ ยังสามารถจัดกิจกรรมศึกษาดูงานกระบวนการผลิตและชมวิธีสาธิตการสานกระจูดเพื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นงานต่างๆ เช่น เสื่อ กระเป๋าถือ กล่อง หมวก รองเท้า ฯลฯ กิจกรรมฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญด้านการสานกระจูด พร้อมทดลองทำจริง

     ผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชน
     ผลิตภัณฑ์จักสานกระจูด เช่น ประเภทกระเป๋าหิ้ว กระเป๋าสะพาย ประเภทกล่อง ประเภทตะกร้า และอื่นๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ

     อาหารพื้นถิ่น
     หมูชะมวง แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว แจงลอน แกงป่าเห็ดโคน

     การเดินทาง
     สามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ส่วนตัว และรถโดยสารประจำทาง รถตู้โดยสาร ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงบ้านมาบเหลาชะโอน ประมาณ 190 กิโลเมตร

     ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ  
     บ้านมาบเหลาชะโอน หมู่ที่ 5 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง
     สิงขรณ์ ถนอมจิตร์ โทร. 08-1761-7037
     มนตรี ยิ้มเยื้อน โทร. 0 -3864-7079, 08-6045-3938
     e-mail : baankawee@hotmail.com
 



 
     ปักหมุด
5 : ชุมชนบ้านยายม่อม จ.ตราด

     อัตลักษณ์ชุมชน
     ชุมชนบ้านยายม่อมตั้งอยู่ใกล้เขตป่าสงวนแห่งชาติแหลมมะขาม มีระบบนิเวศป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ และมีหาดทรายสีดำเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยและเพียง 5 แห่งในโลก นี่จึงทำให้เกิดภูมิปัญญาท้องถิ่นในการใช้ทรายดำช่วยบรรเทาอาการของโรคที่เกี่ยวกับกระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ เช่น ปวดขา และปวดเมื่อยตามตัว วิธีการรักษามีชื่อเรียกว่า หมกทรายดำ โดยนอนบนทรายดำแล้วนำทรายดำกลบบริเวณที่ปวด เช่น ถ้าปวดข้อเท้าให้กลบทรายดำที่ข้อเท้า ถ้าปวดขาให้กลบทรายดำที่ขา

     กิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชน
     สืบเนื่องจากชาวบ้านในชุมชนมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและไม่รบกวนธรรมชาติ เป็นชุมชนที่เข้มแข็งในด้านการจัดการเรื่องการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จึงได้จัดตั้ง นิเวศพิพิธภัณฑ์บ้านยายม่อม (Eco Museum of Yaimom) ขึ้น โดยมีศูนย์ความรู้และจัดเก็บสิ่งของที่เป็นทรัพยากรทางธรรมชาติ รวมถึงสมุนไพรที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน เช่น ชาใบขลู่ ที่นำต้นผักตามบริเวณป่าชายเลนใกล้หาดทรายสีดำมาแปรรูปเป็นใบชา เพื่อทำเป็นยาสมุนไพรช่วยขับปัสสาวะให้ใส แก้ปวดเมื่อยตามข้อกระดูก โครงการธนาคารสีเขียวที่ชาวบ้านร่วมกันก่อตั้ง มีกิจกรรมหลักคือ การปล่อยปูไข่นอกกระดองและแมงดากลับคืนสู่ธรรมชาติ และมัสยิดนูรุ้ลการีม ศูนย์รวมจิตใจของชาวมุสลิมในชุมชน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม เช่น ทำสปาถ่านหน้าเด้ง และการทำสปาทรายดำ  

     ผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชน
     ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลาโคก เช่น น้ำพริกปลาโคก ก้างปลาโคกแดดเดียว ปลาโคกแดดเดียว และปลาโคกหวานที่สะอาดปลอดสารพิษ  

     อาหารพื้นถิ่น
     น้ำพริกปลาโคก เมี่ยงคำไส้แห้ง ข้าวเกรียบ

     การเดินทางมาท่องเที่ยว
     รถยนต์ส่วนตัว : จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 330 กิโลเมตร ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 ที่ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วออกทางออกที่ไปทางอำเภอบ้างบึง ตามถนนหมายเลข 344 ถึงทางแยกอำเภอแกลงเลี้ยวซ้าย เข้าถนนหมายเลข 3 หรือถนนสุขุมวิท จากนั้นก็ขับตามถนนนี้ผ่านจังหวัดจันทบุรีมาถึงจังหวัดตราด ให้ตรงเข้าเมืองแล้วใช้เส้นทางหมายเลข 3148 มาที่อำเภอแหลมงอบ

     รถโดยสารประจำทาง : จากกรุงเทพฯ จะมีรถโดยสารประจำทางไปถึงที่ตัวเมืองจังหวัดตราด สามารถไปขึ้นรถได้ที่ สถานีขนส่งเอกมัย หมอชิต (ถนนกำแพงเพชร 2) มีรถบัสโดยสารและรถตู้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง

     เครื่องบิน : สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จากสนามบินสุวรรณภูมิ-ตราด โทร. 1771 หรือ www.bangkokair.com (ข้อมูลภาพบางส่วน จากเว็บไซต์  www.rukbankerd.com)

     ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ 
     ชุมชนบ้านยายม่อม อ.แหลมงอบ จ.ตราด
     นิเวศพิพิธภัณฑ์บ้านยายม่อม Halal Spa Destination in Trat City 
     โทร. 08-5214-2082, 08-1996-4388
 




     ปักหมุด
6 : บ้านเขาบายศรี จ.จันทบุรี

     อัตลักษณ์ชุมชน
     บ้านเขาบายศรี ขึ้นชื่อในเรื่องผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นราชาผลไม้อย่างทุเรียน ราชินีผลไม้อย่างมังคุด และผลไม้ขึ้นชื่อของเมืองจันท์อย่างเงาะ ลองกอง และระกำ จึงเป็นหนึ่งในชุมชนต้นแบบในคอนเซปต์ Gastro Paradiso ซึ่งในช่วงฤดูผลไม้ออกผลที่ชุมชนแห่งนี้ยังได้จัดทริปบุฟเฟต์ผลไม้เด็ดรับประทานได้จากต้นกันเลยทีเดียว และแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นจึงหนีไม่พ้นสวนผลไม้ ที่หากมาเดินเที่ยวก็จะพบกับต้นทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดอายุมากที่สุดสวนระกำโบราณ รวมถึงเส้นทางโบราณขณะที่ผลิตภัณฑ์ชุมชนก็มีทั้งทุเรียนกวน ทุเรียนทอดกรอบ มังคุดกวน แก้วมังกร ท็อฟฟี่ทุเรียน และสละลอยแก้ว เป็นต้น

     กิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชน
     เดินชมสวนผลไม้ พร้อมเก็บผลไม้ด้วยตนเอง ชมการสาธิตวิธีการเก็บผลไม้ต่างๆ ชมและชิมผลไม้ต่างๆ เช่น ระกำ ทุเรียน มังคุด ชมอุโมงค์เก็บน้ำใต้ดิน ภูมิปัญญาพื้นบ้านเขาบายศรี ชมต้นทุเรียนที่สูง-ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีอายุเกิน 100 ปี

     กิจกรรมเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ การนอนฟังเสียงจิ้งหรีดในบ้านพักโฮมสเตย์ในบรรยากาศสวนผลไม้ที่ได้รับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย สักการะศาลปู่เจ้าเขาบายศรี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความนับถือ นั่งรถเที่ยวสถานที่สำคัญในจังหวัดจันทบุรี เช่น ตลาดพลอย หาดเจ้าหลาว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี (ค่ายเนินวง)

     นอกจากสวนผลไม้แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจให้ปักหมุด เช่น วัดเขาสุกิม ซึ่งเป็นวัดตั้งอยู่บนเขาในเขตตำบลเขาบายศรี จึงมีทัศนียภาพที่สวยงาม โดยภายในวัดเขาสุกิมมีพิพิธภัณฑ์แสดงวัตถุโบราณเก่าแก่หลายยุคหลายสมัย และภายในอาคาร 60 ปี เฉลิมพระเกียรติ ชั้นที่ 4 มีอาคารทรงไทย 5 หลัง เป็นสถานที่ประดิษฐานรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของเกจิอาจารย์ชื่อดัง เช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ พระอริยสงฆ์สายวิปัสสนากรรมฐานหลายรูป อีกยังเป็นสถานที่เก็บรวบรวมวัตถุโบราณ เครื่องหยก เครื่องมุก เครื่องปั้นลายครามของเมืองจีน และสิ่งของอื่นๆ ที่ควรแก่การศึกษาค้นคว้าอีกมากมาย ไม่เพียงเท่านั้น จังหวัดจันทบุรียังมีโบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล โบสถ์คริสต์ที่สวยที่สุดในประเทศ โบสถ์คาทอลิกแห่งนี้นับเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่ยืนหยัดผ่านกาลเวลามากว่าศตวรรษ และมีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ ที่นับว่าเป็นหนึ่งในย่านที่เก่าแก่ของเมืองจันทบุรี

     แต่มาจันทบุรีทั้งทีก็ต้องไปเที่ยวทะเลกันหน่อย ห่างออกไปไม่เกิน 25 กิโลเมตร จะมีจุดชมวิวที่สวยที่สุดอย่าง เนินนางพญา ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งอยู่ริมทะเล สามารถมองเห็นวิวบนหน้าผาและถนนโค้งสวยริมทะเลอีกด้วย

     ผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชน
     
ทุเรียนกวน ทุเรียนทอดกรอบ มังคุดกวน แก้วมังกร ท็อฟฟี่ทุเรียน สละลอยแก้ว

     อาหารพื้นถิ่น
     แกงหมูชะมวง ก๋วยเตี๋ยวผัดปู น้ำพริกปูไข่ น้ำพริกระกำ ข้าวเกรียบอ่อนน้ำจิ้ม ทองม้วน

     การเดินทาง
     จากตัวเมืองจันทบุรี มุ่งไปอำเภอท่าใหม่ พอถึงท่าใหม่ มุ่งไปวัดเขาบายศรี ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางชัดเจน

     ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ 
     บ้านเขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
     โทร. 0-3949-5025-7, 08-5261-6121
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup