Q-Life

ไขข้อสงสัยกาแฟช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ ?

Text : น้ำค้าง




Main Idea
 
  • หลายคนคงเคยได้ยินว่ากาแฟช่วยทำให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายดีขึ้น และทำให้เกิดผลพลอยได้คือน้ำหนักที่ลดลง
 
  • เราเลยรวบรวมงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกัน                




     ชีวิตประจำวันของใครหลายคนก่อนไปทำงานก็ต้องตื่นขึ้นมาก็ต้องกินกาแฟ ไปที่ทำงานช่วงบ่ายๆ ก็กินกาแฟอีก จะเห็นได้ว่ากาแฟเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา หลายคนคงเคยได้ยินว่ากาแฟช่วยทำให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายดีขึ้น และทำให้เกิดผลพลอยได้คือน้ำหนักที่ลดลง เชื่อว่าบางคนอาจยังแคลงใจ นี่เป็นเรื่องจริงหรือไม่


     ล่าสุดเพิ่งอ่านเจอบทความเกี่ยวกับงานวิจัยชิ้นใหม่ตีพิมพ์ในวารสาร The American Journal of Clinical Nutrition ที่ระบุการดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วช่วยลดไขมันในร่างกายลงได้ อันนี้เป็นผลจากการติดตามกลุ่มตัวอย่างชายและหญิง เชื้อสายจีน มาเลย์ และอินเดียในสิงคโปร์ที่น้ำหนักเกิน (Overweight) จำนวน 126 คน เป็นเวลานาน 24 สัปดาห์ พบว่า คนที่ดื่มกาแฟ (มีกาเฟอีน) 4 แก้วต่อวัน ในช่วง 6 เดือน พบว่า ไขมันในร่างกายลดลงเกือบ 4 เปอร์เซ็นต์ 


     งานวิจัยนี้เป็นของ เดอร์ริค จอห์นสตัน อัลเพเร็ต นักวิชาการด้านภาควิชาโภชนาการ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ไขมันในร่างกายที่ลดลงนั้นไม่เชิงว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์ เช่น อาหาร หรือการออกกำลังกาย แต่น่าจะเป็นผลจากกาเฟอีนในกาแฟช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย ทำให้แคลอรีถูกเบิร์นมากขึ้นจึงทำให้ไขมันในร่างกายลดลง






     ทั้งนี้ก็มีข้อสงสัยว่า การศึกษาดังกล่าวใช้เวลาเพียง 6 เดือนในการติดตามผล แต่ถ้าคนทั่วไปนำไปปฏิบัติ โดยดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วไปตลอดจะมีความเสี่ยงใด ๆ หรือไม่ ซึ่งนักวิชาการอัลเพเร็ตมองว่า ไม่น่ามีปัญหาอะไรเพราะมีงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่บ่งชี้ว่า การดื่มกาแฟในปริมาณนี้อยู่ในระดับที่รับได้ และโดยปกติคนอเมริกันก็ดื่มกาแฟมากถึงวันละ 4 แก้วเป็นปกติอยู่แล้ว ในขณะที่คนยุโรปนั้นดื่มมากกว่า เฉลี่ย 7 แก้วต่อวันเลยทีเดียว


     แต่ คอนนี่ ดีคแมน ที่ปรึกษาด้านอาหารและโภชนาการ และอดีตประธานสถาบันโภชนาการและการกำหนดอาหารบอกว่า ในเรื่องนี้เธอไม่แน่ใจ เธอคิดว่าการดื่มกาแฟวันละ 4 แก้ว ทำให้ร่างกายรับกาเฟอีนปริมาณมาก ซึ่งส่งผลให้ความอยากอาหารลดลง และมีผลข้างเคียง เช่น ทำให้ปวดศีรษะ กระสับกระส่าย หัวใจเต้นเร็ว และท้องไส้ปั่นป่วน ซึ่งอัลเพเร็ตก็เห็นด้วยว่าหากปกติไม่ใช่คนที่ดื่มกาแฟก็ควรระมัดระวัง เพราะกาเฟอีนไม่ได้มาจากเครื่องดื่มกาแฟอย่างเดียว แต่มาจากชา และเครื่องดื่มอื่นๆ รวมถึงมีในอาหารบางชนิดด้วย


     ทางด้าน โลน่า แซนดอน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประจำภาควิชาโภชนาการ ศูนย์การแพทย์เซ้าท์เวิสเทิร์น มหาวิทยาลัยเท็กซัส แสดงทัศนะว่า แม้กาแฟจะทำให้ไขมันลดลงได้จริง แต่การต้องดื่มกาแฟวันละหลายแก้วต่อเนื่องนานครึ่งปีเพื่อแลกกับไขมันที่ลดลงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ เธอมองว่าไม่คุ้ม เธอยังแนะอีกว่าสิ่งที่ควรทำคือ การจำกัดแคลอรี หรือจำกัดอาหารที่รับประทานจะเห็นผลมากกว่า ยิ่งเมื่อบวกกับการออกกำลังกายตามโปรแกรมที่เหมาะกับร่างกายแล้ว Body Composition หรือองค์ประกอบของร่างกายเปลี่ยนแปลงแน่นอน 


     อย่างไรก็ตามหลังจากได้อ่านที่นักวิชาการเขาถกกันก็คงจะพอทำให้เห็นภาพว่ากาเฟอีนในกาแฟช่วยลดน้ำหนักได้ประมาณไหน ทีนี้คงจะตัดสินใจได้ว่าจะเลือกกาแฟเป็นเครื่องมือในการลดน้ำหนักดีหรือไม่
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup