Q-Life

รู้จัก Jamu เครื่องดื่มต้านโรคจากอินโดนีเซีย

 

Text : น้ำค้าง

     เรียกได้ว่าการระบาดของโควิดที่กระจายไปทั่วทุกมุมโลกทำให้ผู้คนตื่นตัวกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น อย่างที่อินโดนีเซีย มีเครื่องดื่มชนิดหนึ่งเรียกว่า Jamu ต้นกำเนิดมาจากเกาะบาหลีแต่ก็พบเห็นได้ทั่วไปในอินโดนีเซีย Jamu เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากพืชและสมุนไพรหลายชนิด และมีมากมายหลายสูตร แต่หลักๆ จะมีขิงกับขมิ้นเป็นส่วนประกอบ

     จากที่เคยขายตามร้านข้างทาง เป็น Street Drinks เป็นเครื่องดื่มสำหรับผู้ใหญ่ วัยรุ่นไม่สนใจ คนรุ่นใหม่มองข้าม พอเกิดโควิดเท่านั้น Jamu กลายเป็นฮอตฮิตขึ้นมาทันที ส่งผลให้ขิงกับขมิ้นขาดตลาดไปชั่วขณะ ผู้ประกอบการหลายเจ้าทำเป็นเครื่องดื่มบรรจุขวดขาย คาเฟ่หลายแห่งนำมาเพิ่มมูลค่าทำเป็น Functional Drinks บรรจุในเมนู ขายดิบขายดีกันไป

 

 

     สรรพคุณที่โดดเด่นคือ ลดการอักเสบในร่างกาย ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ขิงและขมิ้นมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง อุดมด้วยวิตามินซี สารเคอร์คูมินที่มีมากในขมิ้นและให้สีเหลืองนั้นได้ชื่อว่าเป็นสารต้านการอักเสบ สามารถต่อสู้กับไวรัสได้ ผลการศึกษาพบว่าสารเคอร์คูมินลดความเสี่ยงในการติดโควิดได้ นอกจากนั้น เครื่องดื่ม Jamu ยังช่วยลดคอเลสเตอรอล และทำให้ร่างกายแข็งแรง

     ผู้เขียนไม่แน่ใจว่า Jamu ซึ่งเป็นเครื่องดื่มประจำของชาวเกาะบาหลีซึ่งนับถือฮินดูเป็นหลักจะมีความเกี่ยวข้องกับศาสตร์อายุรเวทของอินเดียหรือไม่ แต่ที่อินเดียก็มีเครื่องดื่มที่เรียกว่า Golden Milk หรือ Turmeric Milk ที่มีลักษณะคล้ายกัน เพียงแต่ของอินเดียใช้นมวัวต้มผสมกับขมิ้นและเครื่องเทศหลายชนิด แต่ Jamu ใช้น้ำมะพร้าวหรือน้ำเปล่าต้มกับขมิ้นและส่วนผสมที่น้อยกว่า แต่สรรพคุณที่ได้ของเครื่องดื่ม 2 ชนิดจาก 2 ประเทศไม่ต่างกันเลย

 

 

     สำหรับผู้สนใจ มีสูตรการทำน้ำ Jamu มาแนะนำ

     ส่วนประกอบ

     - ขิง 64 กรัม
     - ขมิ้นสด 48 กรัม (ใช้ขมิ้นผงแทนได้ในปริมาณ 1 ช้อนชา)
     - น้ำมะนาว 133 กรัม (บางสูตรใช้มะขามเปียกเล็กน้อย)
     - น้ำผึ้ง 14 กรัม (ใช้น้ำตาลมะพร้าวแทนน้ำผึ้งสำหรับสูตรวีแกน)
     - น้ำมะพร้าวหรือน้ำเปล่า 198 กรัม

     วิธีทำ

     ปั่นขิงและขมิ้นสดกับน้ำแล้วกรองเอากากออก จากนั้นเติมน้ำมะนาวและน้ำผึ้ง ผสมให้เข้ากัน สามารถเติมพริกไทยดำลงไปได้จะยิ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมขมิ้นไปใช้งานได้ดียิ่งขึ้น สามารถดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น แต่ระวัง ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม หากดื่มมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะดีซ่านเทียม แม้ไม่เป็นอันตรายแต่จะทำให้ฝ่ามือฝ่าเท้ามีสีเหลือง พอหยุดดื่ม อาการก็จะหายไปเอง

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup