Starting a Business

เมื่อสาวออฟฟิศคิดทำธุรกิจ จะเริ่มต้นอย่างไรให้ไปรอด?

Text : ขวัญใจ สงวนศักดิ์พิชัย (ฝน)

 

Main Idea
 
  • เชื่อว่าสาวออฟฟิศหลายคน มีความคิดอยากลองทำธุรกิจของตนเอง แต่ติดปัญหาตรงที่ว่า ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี
 
  • ขวัญใจ สงวนศักดิ์พิชัย สาวออฟฟิศที่เริ่มต้นธุรกิจด้วยการทำแบรนด์กระเป๋า Gramz ขายบนอินสตาแกรม จึงมาแชร์ไอเดียวิธีการเริ่มต้นธุรกิจและการทำการตลาดของเธอ
 

 

          มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ถ้าต้องมาทำธุรกิจของตัวเองจะทำได้ไหม?

          แล้วถ้าทำธุรกิจจริงๆ ล่ะจะเริ่มต้นอย่างไร?

          หลังจากที่คำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวมาหลายปี ก็ถึงเวลาตกผลึกเป็นจริงซะที เมื่อฝนตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองในขณะที่ขาอีกข้างหนึ่งยังยืนอยู่ในฝั่งของการทำงานประจำ
 

เริ่มต้นจาก Passion

      หากจะทำอะไรควรเริ่มต้นจาก Passion ของตนเอง เพราะมันจะเป็นแรงผลักชั้นยอดในการทำให้เราไปถึงเป้าหมาย คำแนะนำที่ได้ยินมาบ่อยๆ และแน่นอนเมื่อ Passion ของฝนคือกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็นประเป๋าใบเล็กใส่สตางค์หรือกระเป๋าถือใบใหญ่ก็ตาม ซึ่งเจ้ากระเป๋านี้มีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงราคาเท่าที่คุณจะจินตนาการได้ และไม่ใช่ทุกคนที่จะจ่ายได้ขนาดนั้น เมื่อชอบกระเป๋า ชอบหนังซึ่งในที่นี้คือหนังแท้ ฝนก็เลยเอา 2 เรื่องนี้มาผสมกัน นั่นคือกระเป๋าหนังแท้ในราคาที่จับต้องได้ แล้วใส่ความสนุกลงไปเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ซึ่งเมื่อได้ไอเดียนี้แล้วก็ไม่รอช้าที่จะชักชวนน้องอีกคนมาร่วมทำด้วยกัน
 




ตั้งชื่อแบรนด์

     อันดับแรกที่ฝนเริ่มทำคือ คิดชื่อแบรนด์ ต้องเป็นชื่อสั้นๆ ง่ายๆ ที่สื่อความหมาย คำว่า Glam มีความหมายดีคือผู้หญิงทุกคนต้องการความเท่ ความดึงดูด แต่คำนี้ก็ดูธรรมดาไป ลองเปลี่ยนตัวอักษรสักหน่อยเป็น Gramz ซึ่งแม้จะไม่ใช่ศัพท์ภาษาอังกฤษ แต่เราเล่นการพ้องเสียงก็ทำให้คำนี้ดู Cool ขึ้นมา

     แน่นอนว่ายุคนี้เป็นยุคของออนไลน์ เพราะถ้าเป็นออฟไลน์ต้องมีค่าเช่าที่ ต้องมีคนอยู่ร้าน ซึ่งเราสองคนยังทำงานประจำอยู่ คงไม่สามารถไปเฝ้าร้านเองได้ ครั้นจะจ้างคนไปเฝ้าร้านก็มีต้นทุนโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะขายกระเป๋าได้หรือเปล่า ดังนั้น จึงเริ่มจากออนไลน์ โดยช่องทางแรกที่เลือกทำคือ อินสตาแกรม แต่กระนั้นช่องทางออฟไลน์ก็ยังจำเป็นอยู่เพราะเราเป็นแบรนด์ใหม่ คนไม่รู้จัก เป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ ให้รู้ว่าแบรนด์เรามีตัวตนจริงๆ ดังนั้น ฝนเลือกที่จะออกบู๊ธงานต่างๆ ตามเวลาที่เอื้ออำนวยสำหรับคนที่มีงานอื่นทำพร้อมๆ กันไปด้วยกัน

      อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ฝนได้สร้างแบรนด์ Gramz และลอนช์กระเป๋าออกไป 2 ปีนั้น สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การตั้งชื่อว่า Gramz เดี่ยวๆ ในอินสตาแกรมนั้นเป็นคำที่เฉพาะเกินไป ไม่ใช่คำที่คนจะเซิร์ช ดังนั้น ควรต้องตั้งชื่ออะไรที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ ในอินสตาแกรม ฝนจึงเปลี่ยนมาใช้คำว่า style.by.gramz เพราะคนจะเซิร์ชคำว่า Style ที่เป็นคำทั่วไปมากกว่า จึงทำให้คนเจอเรามากขึ้น
 
 


ลูกค้าเราคือใคร ?

     มากไปกว่านั้น ฝนจะตั้งคำถามก่อนว่าใครคือลูกค้าของเรา ซึ่งที่วางเอาไว้คือ พนักงานออฟฟิศ นักศึกษาที่เพิ่งจบ แต่จากประสบการณ์ที่ได้หลังจากเริ่มทำธุรกิจนี้ไปแล้ว ฝนพบว่ากลุ่มเป้าหมายที่เราคิดเอาไว้ในตอนแรกนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนกลุ่มนั้น 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะในระหว่างทางเราจะเจอข้อมูลใหม่ๆ แล้วเราจะรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายอาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปได้




              
กว่าจะออกมาเป็นสินค้า

     ควบคู่ไปกับการคิดทุกสิ่งทุกอย่างข้างต้น ฝนคิดถึงการดีไซน์กระเป๋าไปด้วยว่า กระเป๋าใบแรกหน้าตาจะออกมาเป็นแบบไหนด้วย โดยจะเอาตัวเองเป็นหลักว่า ถ้าเป็นเราจะอยากได้กระเป๋าแบบไหน ดังนั้น จึงเริ่มจากทำกระเป๋าใบเล็กก่อน คือรุ่น AVA ซึ่งทรงคือกระเป๋าเครื่องสำอาง แต่ใหญ่พอที่จะใส่กระเป๋าสตางค์ใบเล็กที่สาวๆ ทุกวันนี้ใส่กัน แล้วเติมลูกเล่นเข้าไปเป็น Cross Body   

     สำหรับการหาโรงงานรับผลิตจะได้รับคำแนะนำจากเพื่อน โดยมีหลักการเลือกง่ายๆ คือ 1.ดูราคา 2.ดูคุณภาพ วัสดุและเนื้องานที่ออกมา สามารถหาวัสดุตามที่เราต้องการได้หรือไม่ ที่สำคัญต้องดูด้วยว่าหลังจากนี้ หากกระเป๋าที่ลูกค้าซื้อไปมีปัญหาเรื่องอะไหล่ เราต้องสามารถส่งกลับมาโรงงานเพื่อช่วยซ่อมแซมให้ได้
 ทีนี้มาถึงเรื่องของการตั้งราคา จะมองที่ 1.Value ของสินค้าของเรา และ 2.Value ที่ลูกค้ายินดีที่จะจ่าย แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าการตั้งราคาถูกมันทำให้ขายง่ายก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าคนขายจะแฮปปี้

     นอกจากนี้ กระเป๋ารุ่นถัดมาฝนเลือกทำกระเป๋าที่ใบใหญ่ขึ้นมาและใช้วัสดุหนังแท้ วัสดุ Premium ทุกอย่าง ตั้งราคาขายที่ 5 พันบาท ซึ่งเป็นบทเรียนที่ว่า ในความเป็นจริงแล้วคนไม่รู้จักแบรนด์ดีพอว่าเราใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ดังนั้นลูกค้าจะตัดสินใจไม่ได้กับราคาที่สูง ซึ่งเขาจ่ายเพิ่มอีกหน่อยก็ได้กระเป๋าแบรนด์เนมแล้ว วิธีการแก้ปัญหาคือ การออกแบบกระเป๋าขึ้นมาอีกรุ่นที่ใช้คำว่า Standard คือ ยังใช้วัสดุทุกอย่างคุณภาพดี แต่ไม่ต้องถึง Premium ที่สุด ซึ่งจะมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ไม่ต้องการความเป็น Premium ขนาดนั้น แต่ต้องการอะไรที่เป็นแฟชั่นสวยงามและใช้ได้เรื่อยๆ มากกว่า ฝนเลยเพิ่มโปรดักต์ใหม่ที่เป็นแฟชั่น น่ารัก และราคาเข้าถึงง่าย เพื่อเพิ่มความสนุกให้กับลูกค้าของแบรนด์ โดยตัวอย่างของโปรดักต์กลุ่มนี้จะเป็น Eco Tote Bag กับกระเป๋าสานดีไซน์เก๋ของทางร้าน

 



การตลาดออนไลน์สำหรับร้านใหม่ยากง่ายเพียงใด

     สิ่งที่ยากที่สุดในการทำธุรกิจในมุมของฝนคือ การทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งการขายของออนไลน์ไม่ได้หมายความว่าโพสต์สินค้าแล้วจะขายได้เลย ต้องเหมือนการบิวท์สินค้าทำอย่างไรให้คนเห็นสินค้าของเรา เราต้องหากลุ่มลูกค้าที่เป็นลูกค้าเราจริงๆ ที่ไม่ว่าเราจะค้าขายอะไร เขาจะชอบในความเป็นแบรนด์เรา วิธีง่ายๆ ที่ฝนใช้ในการทำการตลาดออนไลน์ก็เหมือนกับแบรนด์อื่นๆ คือ การยิงสื่อออนไลน์แต่ไม่ได้ใช้เงินเยอะ จะซื้อเลี้ยงไปเรื่อยๆ ส่วน Influencer Marketing กลยุทธ์การตลาดนี้ จะได้ผล ณ ช่วงเวลานั้น หลังจากนั้นก็จะขึ้นกับว่าเราจะจับลูกค้าให้อยู่กับเราได้นานแค่ไหน
     หลังจากสร้างแบรนด์ Gramz มา 2 ปี มียอดขายที่ค่อยๆ เติบโต ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าการทำงานประจำไปด้วย ทำให้ไม่สามารถทุ่มเทให้กับการทำธุรกิจได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราสามารถทำควบคู่ไปด้วยกัน หากรู้จักบริหารเวลาให้เป็นประโยชน์ จัดสรรเวลาให้ลงตัวระหว่างการทำงานประจำที่จะต้องไม่ผิดพลาด และการทำธุรกิจที่ต้องใส่ใจและมีความสม่ำเสมอ  
 

     Facebook : Gramz
     IG : style.by.gramz
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup