Text: Neung Cch.




     เด็กๆ หลายคนอาจเคยต้องตอบคำถามว่าโตขึ้นมาอยากเป็นอะไร คำตอบก็คงแตกต่างก้นไปตามความชอบหรือความฝันของแต่ละคน แต่ถ้าไปถามสาวชาวเหนือ ข้างกาย เอรียาสกุล คำตอบที่ได้ก็คือ อยากเป็นนายของตัวเอง


     ด้วยแนวคิดนี้ทำให้เธอมุ่งมั่นที่จะหารายได้ด้วยตัวเองตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่รับจ้างเลี้ยงหมา ขนน้ำเปล่าเป็น 100 แพ็กไปขายตามตลาดนัด ฯลฯ ไม่ว่างานเล็กงานใหญ่ งานหนักงานเบา แต่ด้วยใจที่สู้ทำให้เธอก้าวไปสู่ความสำเร็จตั้งแต่ยังเรียนไม่จบก็สามารถมีเงินล้าน มีบ้าน คอนโดมิเนียม มีโรงแรมเลี้ยงสุนัข มีลูกน้องที่ในยังอยู่ในช่วงอายุ 22 ปี แถมยังเป็นผู้จุดประกายธุรกิจสินสอดให้เช่ารายแรกในประเทศไทย SME Startup จะพาไปรู้จักกับสาวสวยมากความสามารถคนนี้กัน
 




     ไม่ชอบเป็นลูกจ้าง


    ย้อนไปในวัยเด็กข้างกายบอกว่าเธอเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง เธอกับน้องชายอาศัยอยู่กับแม่ที่มีอาชีพเป็นพนักงานร้านเสริมสวยซึ่งแยกอยู่กับพ่อ แต่พ่อก็ยังส่งเงินให้เธอเดือนละ 3 พันบาท เงินจำนวนนี้ตอนนั้นเธอเองก็ยังไม่รู้ว่ามากหรือน้อย รู้เพียงแต่ว่าเธอกับน้องชายตั้งใจว่าจะไม่รบกวนเงินทางบ้าน อะไรที่สามารถหาเงินได้ก็จะทำเลย ไม่อยากรอให้เรียนจบแล้วค่อยเริ่มทำงาน


     “ตัวกายมีเป้าหมายชัดเจนคืออยากเป็นนายจ้างตัวเอง หาเงินตั้งแต่เด็ก ทำงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เคยขนน้ำเปล่าคนเดียวเป็น 100 แพ็กไปขายตามตลาดนัด โคตรเหนื่อยไหนจะต้องจองล็อก ต้องแบกน้ำคนเดียวแต่มันกำไรดี ขวดละ 4 บาทเราก็ทำ รับจ้างเลี้ยงหมาก็เคย ทำมาหลายอย่าง เจ๊งมาก็เยอะ แต่กลายเป็นว่าพอเรียนจบมหาวิทยาลัยเรามีบ้าน มีรถยนต์ 3 คัน มีคอนโดมิเนียม มีโรงแรมหมาของตัวเอง อายุ 22 มีลูกน้อง 3 คนแล้ว ในขณะที่เพื่อนๆ หลายคนเรียนจบยังหางานกัน บางคนได้งานแต่ก็ได้เงินเดือนหมื่นกว่าบาท”





     "กายไม่ได้มองว่าการไปเรียนไม่สำคัญ แต่กายมองว่าใบปริญญาไม่สำคัญเท่ากับความรู้ ซึ่งการไปโรงเรียนได้อะไรมากกว่าใบปริญญา เช่น การเข้าสังคม อยู่ในที่แจ้งให้เป็น การพูดคุย ตรงต่อเวลา ได้เรียนรู้หลายอย่างไม่ใช่แค่ในตำราเท่านั้น”

 




     เงินอยู่ในอากาศ


     ดังนั้นเกรดที่เธอเรียนจบปริญญาตรีจึงไม่สวยงามนัก เพราะเธอเน้นไปที่การเรียนรู้ทั้งในตำราและนอกตำรา ที่ให้
ประสบการณ์กับเธอมากมาย อาทิ จากที่เคยรับจ้างเลี้ยงหมา เธอก็พัฒนาต่อยอดสร้างโรงแรมหมาเป็นของตัวเองแล้วยังมีอีกหนึ่งธุรกิจที่เธอเป็นผู้บุกเบิกขึ้นเป็นคนแรกในประเทศไทย นั่นคือธุรกิจให้เช่าสินสอด ที่ต่อยอดมาจากการทำธุรกิจให้เช่ารถคลาสสิก ไว้เป็น prop ถ่ายรูปงานวิวาห์ หรือส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าเรือนหอ แต่เนื่องด้วยการเคลื่อนย้ายรถคลาสสิกไปให้บริการทั่วประเทศกลายเป็นข้อจำกัดของการขยายตลาด ไม่สะดวกเหมือนกับเคลื่อนย้ายเงินไปให้คนเช่าทั่วประเทศทำให้เกิดอีกหนึ่งธุรกิจที่แปลกใหม่แต่ก็มีคนใช้บริการมากมายในประเทศไทย


     “เคยได้ยินมานานแล้วว่ามีบางครอบครัวพ่อแม่ลงทุนไปกู้เงินเพื่อมาวางโชว์ในงานแต่ง และก็เคยเจอคนมายืมเงินเราเพื่อนำไปโชว์ในงานแต่งเช่นกัน เลยเกิดเป็นไอเดีย ลองดู ไม่มีใครเช่าก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ได้ลงทุนอะไร และก็อยากต่อยอดขยายตลาดธุรกิจให้เช่ารถไปด้วย”
 




     เปลี่ยนไอเดียให้เป็นเงิน


     พอตัดสินใจลงมือทำสาวเหนือคนนี้ก็เดินหน้าใช้พื้นที่เฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นพื้นที่โปรโมต ด้วยพื้นฐานที่โซเชียลของเธอมีผู้ติดตามคลิปการสร้างแรงบันดาลใจมากกว่า 5 แสนคน ทันทีที่ไอเดียให้เช่าสินสอดปรากฏบนสื่อโซเชียลแค่เพียงวันเดียวก็กลายเป็น talk of the town มีสำนักข่าวแทบทุกสำนักจองตัวเธอไปสัมภาษณ์ทำให้มีเป็นที่รู้จักและเกิดลูกค้ามาใช้บริการตั้งแต่สามปีที่แล้ว


     “งานแรกก็มีงงๆ เหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี จำได้ว่าลูกค้ารายแรกต้องการเงิน 5 แสน เราก็ไปเบิกเงินจากธนาคาร พยายามทำสัญญาให้รัดกุมที่สุด แล้วพอถึงวันจริงก็จ้างคนไปคุ้มกันด้วย แต่พอไปถึงงานจริงไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คิด”





     จากลูกค้ารายแรกก็เริ่มมีลูกค้ารายใหม่ๆ ที่บางเดือนมีลูกค้าสูงสุดถึง 50 ราย สำหรับอัตราค่าบริการให้เช่าสินสอดนั้นข้างกายบอกว่าถ้าเช่าเงินจำนวน 1-5 แสนบาท เป็นลูกค้าต่างจังหวัดค่าบริการเริ่มต้นที่ 3.5 หมื่นบาท แต่ถ้าเป็นลูกค้าในกรุงเทพฯ ราคาเริ่มต้นสองหมื่นบาท ถ้าเช่าเงิน 1 ล้านบาท เป็นลูกค้าต่างจังหวัดค่าบริการเริ่มต้นที่ 5 หมื่นบาท ในกรุงเทพฯ เริ่มต้นที่ 3.5 หมื่น จากที่ให้เช่าแค่เงินก็เพิ่มเป็นทองคำด้วย ปัจจุบันเรามีทีมงาน 3 ทีมเพื่อรับงานทั่วประเทศ


     “หลายคนก็งงกับสิ่งที่เราทำเพราะการปล่อยเงินกู้ที่คิดดอกแพงนั้นผิดกฎหมาย แต่เราไม่ใช่การปล่อยเงินกู้ เหมือนการให้เช่าชุดเจ้าสาว มีบางคนที่เสียเงินไม่ว่า แต่เสียหน้าไม่ได้ เราก็แค่ไปบริการในสิ่งที่สนองความต้องการให้"


     แม้ว่าปัจจุบันจะเริ่มมีธุรกิจให้เช่าสินสอดเกิดขึ้นมามากมายและยังมีสถานการณ์โควิด แต่สาววัย 31 คนนี้ก็มีภูมิคุ้มกันตัวเอง               


     “ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนว่าความอดทนเป็นสิ่งจำเป็น ต้องอดทนจริงๆ อยู่มาได้ถึงทุกวันนี้และถึงแม้ไม่ได้เกิดมารวยแต่ก็ให้อดทน ทุกวันนี้มีเงินลอยอยู่ในอากาศเพียงแต่ต้องมองให้ออกและสร้างโอกาสกับตัวเองให้ได้”


     เหมือนกับที่สาวข้างกาย เธอลิขิตชีวิตด้วยตัวเอง
               

FB: บริษัท โรแมนทีส ให้เช่าสินสอดวันแต่งงาน โดยคุณข้างกาย – เจ้าแรกในไทย
โทรศัพท์ : 0618108404

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup