ธุรกิจนี้มาได้ไง? คิดแบบไหน กว่าจะเป็นธุรกิจทำเงิน

TEXT : กองบรรณาธิการ

     ทุกวันนี้มีสินค้าและธุรกิจเกิดขึ้นมากมาย เคยคิดสงสัยกันไหมว่าจริงๆ แล้วที่มาของสินค้าและบริการต่างๆ เหล่านั้น ผู้ประกอบการเขาเริ่มต้นคิดมาจากอะไร ทำไมถึงกลายเป็นธุรกิจขึ้นมาได้ อะไร คือ สารตั้งต้นที่จุดประกายความคิดขึ้นมาในวันแรก ลองไปดูเคสตัวอย่างจากธุรกิจเหล่านี้กัน

ผัก-ผลไม้ Ready to Eat เจ้าแรกในไทย

     “ย้อนไปเมื่อ 15 ปีก่อน ตอนนั้นผมยังเป็นพนักงานประจำคนหนึ่ง จนวันหนึ่งเริ่มอยากมีธุรกิจของตัวเอง ก่อนลาออกมาก็คิดก่อนว่าจะทำอะไรดี พยายามหาสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ แต่ยังไม่มีใครมาเติมเต็ม ตอนนั้นเทรนด์สุขภาพกำลังมา ทุกคนอยากมีสุขภาพดี แต่กลายเป็นว่าทุกคนก็ยุ่งกับการทำงาน การเตรียมอาหารจึงเป็นเรื่องยาก ผมจึงลองไปเดินสำรวจในซูเปอร์มาร์เก็ต ก็กลับพบว่ามีผักสลัด ผัก ผลไม้ขายอยู่มากมาย แต่ส่วนใหญ่ผู้บริโภคก็ต้องนำกลับไปตัดแต่งเอง ทำเอง ไม่มีใครคิดทำแบบพร้อมรับประทานออกมาเลย พอได้ไอเดียเราก็ไปลองหาข้อมูลจากเมืองนอก ก็พบว่ามีเทรนด์สินค้าแบบ Ready to Eat ขายอยู่ ค่อนข้างเป็นที่นิยมเลยเพราะสะดวก เราเลยกลายเป็นผู้บุกเบิกตลาดผัก-ผลไม้ Ready to Eat ในประเทศ ภายใต้แบรนด์ “Oh Veggies” จำหน่ายอยู่ในคอนวีเนียนสโตร์ และร้านสะดวกซื้อต่างๆ” วุฒิชัย เจริญศุภกุล CEO บริษัท พลังผัก จำกัด

     อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/8120.html

กางเกงในอนามัย ไม่ง้อผ้าอนามัย

      “โดยส่วนตัวเราและแฟนมีความสนใจการขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คน และสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว บังเอิญตอนนั้นเราไปเที่ยวเชียงใหม่กัน ซึ่งเราก็รู้ว่าเป็นช่วงที่ประจำเดือนจะมาพอดี ก็เตรียมผ้าอนามัยสำรองไป 7 - 8 แผ่น แต่ด้วยความที่ไม่รู้ว่าประจำเดือนจะมาวันไหนกันแน่ เราก็ใส่รอไว้ จนกระทั่งผ้าอนามัยหมดแล้ว แต่ประจำเดือนดันมาในตอนกลางคืน จำได้ว่าคืนนั้นเครียดกันมาก เพราะจะออกไปซื้อก็ดึกแล้ว แฟนก็เป็นกังวลไปด้วย ทำให้เราเห็นว่า นี่คือ ปัญหาหนึ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องเผชิญอยู่ทุกเดือน ทั้งเรื่องความกังวลใจและไม่สบายตัว จากเหตุการณ์นั้นก็เลยลองคุยกันว่ามีอะไรที่น่าจะช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้บ้าง ก็ลองศึกษาข้อมูลจากต่างประเทศ ซึ่งมีหลายตัวเลย แต่ที่เราสนใจ คือ กางเกงในอนามัย ซึ่งจากที่มีในท้องตลาด ณ ตอนนั้นเป็นของแบรนด์นอกไม่เหมาะกับสรีระคนไทย ผ้าที่ใช้ก็เหมาะกับเมืองหนาวมากกว่า เราเลยลองหาข้อมูลและติดต่อกับหลายหน่วยงาน เพื่อวิจัย ทดลอง ทำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนไทยจริงๆ ออกมา โดยกางเกงในอนามัยของเราสามารถใช้ใส่แทนผ้าอนามัยใน 1 วันได้ 3-4 แผ่นทีเดียว” อรกานต์ สายะตานันท์ เจ้าของแบรนด์ PARA

     อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/8068.html

เส้นโปรตีนจากไข่ขาวนวัตกรรมครั้งแรกของโลก

      “จริงๆ มันเริ่มขึ้นมาจากเราต้องทำวิทยานิพนธ์ขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ด้วยความที่เคยทำงานคิดประดิษฐ์อาหารสำหรับผู้ป่วยอยู่แล้ว ทำให้ได้เห็นว่าผู้ป่วยหลายคนที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย เช่น ผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยโรคมะเร็งค่อนข้างต้องรับประทานไข่ขาวต่อวันค่อนข้างมากเพราะให้โปรตีนสูงเพื่อนำไปซ่อมแซมร่างกาย ปัญหาหนึ่งที่ผู้ป่วยมักเจอเหมือนกัน คือ ไม่สามารถรับประทานในปริมาณมากต่อเนื่องกันได้ทุกวัน เพราะทำให้เบื่ออาหาร ทำให้ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ เราเลยลองนำมาตีโจทย์นำไข่ขาวมาแปรรูปให้กินง่าย อร่อย ในรูปแบบเส้นโปรตีนที่หลากหลาย เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว, เส้นขนมจีน, เส้นอูด้ง โดยคำนึงถึง 3 ส่วน คือ 1. ทางกายภาพ ความแข็งเหนียวของเส้น สี กลิ่นต้องได้ 2. ประสาทสัมผัส คือ รสชาติต้องดีด้วย และ 3. โภชนการ ต้องมีประโยชน์ ปลอดภัยต่อผู้ป่วย และคนทั่วไปที่อยากใส่ใจสุขภาพด้วย จนสุดท้ายจากงานวิจัย ก็ต่อยอดกลายเป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ของโลกออกมาได้” อุมาพร บูรณสุขสมบัติ หนึ่งในเจ้าของแบรนด์ Nimnim

     อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/7465.html

แกนแตงโม ผลไม้ที่ขายเฉพาะส่วน

     “ลูกชายเราชอบกินแตงโมเป็นพิเศษ แต่แตงโมส่วนใหญ่จะมีเมล็ดเยอะ ทีนี้เราจึงคัดเฉพาะเนื้อส่วนที่อยู่แกนกลางลูกให้เขา เพราะเป็นส่วนที่ไม่มีเมล็ดอยู่ จนวันหนึ่งได้ไปรู้จักกับพี่เจ้าของโรงงานแปรรูปผลไม้ ก็คุยกันถูกคอ เราก็เล่าให้เขาฟัง เขาเลยบอกว่าจริงๆ แล้วโรงงานของเขาจะต้องเจาะส่วนที่เป็นแกนกลางลูกทิ้งไปอยู่แล้ว เนื่องจากมีความหนาแน่นกว่าเนื้อส่วนอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถนำเข้าไลน์การผลิตได้ เราเลยได้ไอเดียขอรับซื้อมาให้ลูกกินและเอามาใส่กล่องแช่เย็นขายในหมู่บ้าน เป็นแตงโมแท่งไร้เมล็ด บังเอิญที่เพื่อนมาเห็นโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ก็สนใจ เลยชวนมาสร้างแบรนด์ขึ้นมา และทำธุรกิจรวมกัน” พิชามญชุ์ เกียรติปิยะขจร หนึ่งในเจ้าของแบรนด์ “แตงโม แตงโหม่ว แตงโม”

     อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/7229.html

ครกหินน้ำหนักเบา แบน ใช้งานง่าย

      “ไอเดียครกหินนี้ เกิดขึ้นมาจากกลุ่มชาวบ้านหมู่บ้านแม่สลิด อ.บ้านตาก จ.ตาก ซึ่งมีฝีมือในเรื่องการทำครกหินแกรนิตอยู่แล้ว ครกหินเหล่านี้เกิดจากเศษหินที่เหลือทิ้ง โดยตรงฐานของครกจะถูกตัดทิ้ง ส่วนที่ทิ้งจะเป็นแผ่นกลมมีความหนาประมาณ 1 นิ้ว ด้านหน้าส่วนที่โดนตัดก็จะเรียบส่วนที่ไม่โดนตัดก็จะเป็นรูปทรงตามธรรมชาติของหิน มีความกว้างพอสมควร ชาวบ้านเลยลองนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มโดยเอาส่วนที่เป็นลวดลายธรรมชาติของหินมาเกลากลึงจนเป็นทรงตื้นๆ กลายเป็นครกหินทรงแบน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากทางอินโดนีเซียที่จะใช้ครกลักษณะนี้แล้วใช้สากกดๆ บดๆ เอา ด้วยความที่เราอยู่ในเมืองมาก่อน พอมาเห็นก็รู้สึกเลยว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้มันตอบโจทย์คนเมืองมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่อาศัยอยู่ในคอนโดแล้วก็ต้องการใช้ของที่น้ำหนักเบา ตำไม่เสียงดังมาก ถือได้ง่ายๆ คนสูงอายุก็ใช้ได้สบาย ไม่ปวดข้อ แม้แต่สายแคมปิ้งก็ยังนำเข้าป่าไปใช้ได้ เลยเข้ามาช่วยลองทำการตลาดให้ และนำมาขายในเพจ iGreenTH ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก” วิตดา มิ่งมหากุล” เจ้าของเพจ iGreenTh ไอกรีน

     อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/7644.html

กล่องสุ่มผัก ผลไม้ อินทรีย์ตกเกรด

     “เหตุมันเกิดจากผมไปเยี่ยมสวนผักเกษตรกร จึงทำให้รู้ว่าผักบางชนิดใช้เวลาปลูกนาน 3 เดือน บางครั้งเพลี้ยลง ผักเป็นรูเขาก็ขายไม่ได้ ทำให้ต้องเด็ดทิ้งไป เลยทำให้รู้สึกว่ามันไม่ค่อยแฟร์กับเกษตรกรเท่าไร และเราคิดว่าผู้บริโภคเองก็ควรได้เรียนรู้ว่าผักออร์แกนิกต่อให้จะเป็นรู จะเหี่ยว จะไม่สวยไปบ้าง แต่มันยังกินได้ และอร่อยด้วย เราเลยตัดสินใจรับซื้อผลผลิตที่ขายไม่ได้ของเกษตรกร แล้วมาทำกล่องสุ่มขายในชื่อ O Box เพื่อผู้บริโภคเองก็จะได้รับประทานผักปลอดภัยในราคาย่อมเยาขึ้นด้วย เพราะเราทำเว็บออนไลน์ (https://whiteorganic.org) จำหน่ายสินค้าออร์แกนิกและปลอดสารขายอยู่ โดยเราจะแบ่งกล่องสุ่มออกเป็น 4 แบบ คือ  กล่องสลัดออร์แกนิก, กล่องผักสวนครัวออร์แกนิก, กล่องผลไม้ออร์แกนิกและปลอดสาร และกล่องออร์แกนิกรวม โดยแต่ละกล่องจะเป็นผักและผลไม้ตามฤดูกาล ขายในราคาเหมาๆ กล่องละ 500 บาท กินได้ทั้งสัปดาห์ โดยในกรุงเทพฯ คิดค่าส่งที่ 50 บาท ส่วนต่างจังหวัดเนื่องจากต้องใช้รถควบคุมอุณหภูมิจึงมีค่าส่งสูงขึ้นที่ 190 บาท” สาโรจน์ สุวัณณาคาร” เจ้าของกล่องสุ่ม O Box  

     อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/7619.html

แบรนด์น้ำพริกที่เกิดจากธุรกิจโรงพิมพ์

     “จริงๆ จุดเริ่มต้นมาจากแค่เราอยากทดลองสร้างแบรนด์ขึ้นมาให้ลูกค้าดูเป็นตัวอย่างเพื่อเห็นศักยภาพว่าโรงพิมพ์เราทำอะไรได้เท่านั้น ตอนนั้นก็ใช้วิธีง่ายๆ เลย คือ สินค้าตัวไหนดี อร่อย ที่เขารับจ้างผลิต OEM ด้วย ก็ลองไปติดต่อ และเอามาสร้างแบรนด์ของเราเอง ออกแบบโลโก้ ฉลาก แพ็กเกจจิ้งของตัวเอง เพราะจริงๆ แล้วในเรื่องงานพิมพ์ เราสามารถพิมพ์ออกมาได้หลากหลาย แต่เราก็ยังขาดประสบการณ์นำไปทดลองใช้จริง ไม่รู้ว่าหลังจากที่ลูกค้ามาสั่งพิมพ์และเอาไปใช้แล้วจะเป็นยังไง สติ๊กเกอร์พิมพ์ด้วยกระดาษแบบนี้แล้ว ต้องใช้กับแพ็กเกจจิ้งแบบไหน พอเราได้ทดลองทำด้วยตัวเอง ก็ทำให้สามารถตอบคำถามลูกค้าได้ อีกอย่างเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าด้วย ซึ่งความจริงควรจะจบลงแค่นั้น แต่กลายเป็นว่าหลังจากที่เริ่มวางสินค้าออกไปได้ไม่นาน มีการโพสต์ลงในเพจ ส่งให้น้องๆ ที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้ทดลองเอาไปใช้บ้าง กลับได้รับการตอบรับกลับมาอย่างดีแบบคาดไม่ถึง จนสุดท้ายกลายเป็นอีกธุรกิจขึ้นมา นอกจากแค่งานพิมพ์” โปรดปราณ โคนทรงแสน เจ้าของแบรนด์ Fa Cai (ฟาไฉ)

     อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/7523.html

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี