“อารีฟู้ดส์” SME ที่ทำอาหารแช่แข็งส่งให้กับครัวร้อนในซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง มีรายได้ต่อปีที่ประมาณ 150 ล้านบาท เมื่อต้องเจอกับโควิด-19 จึงปรับสายพานการผลิตมาสู่สินค้าประเภท Ready to Eat ที่รองรับกับพฤติกรรมของผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้บริโภค
มีสัญญาณให้เห็นชัดเจนว่าในช่วงโควิดที่ผ่านมา กลุ่มสินค้าที่เป็นอาหารเกี่ยวกับสุขภาพได้รับความสนใจมากขึ้น นอกจากนี้กลุ่มสินค้าที่มาแรง และเป็นอนาคตของผู้ส่งออกอาหารไทย ก็คือแพลนต์เบส (Plant-based Food) อาหารจากพืช ซึ่งกำลังเติบโตอย่างมากในตลาดโลก
ยุคนี้การพิมพ์ดิจิทัลและพิมพ์บรรจุภัณฑ์กำลังเติบโตจนเรียกได้ว่าเป็น Sunrise ไซเบอร์พริ้นท์กรุ๊ป มองว่าการพิมพ์ดิจิทัลในจำนวนน้อยจะมีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต จึงเริ่มขยับขยายหาโอกาสให้กับธุรกิจ
อยากเลี่ยงแป้งทำไมต้องอด อยากผอม อยากสุขภาพดี ทำไมต้องกินแต่ของไม่อร่อย! ด้วยเหตุนี้ ทานดี อินโนฟูด จึงได้ปลุกปั้นนวัตกรรมใหม่มาสนองตลาดสายสุขภาพ ที่พลเมือง 1 ใน 3 ของโลกคือคนอ้วน และไทยก็มีคนอ้วนเป็นอันดับ 2 ในอาเซียนเป็นที่เรียบร้อย
ในตลาดโลกเทรนด์ Plant-based Food กลุ่มอาหารที่ทำมาจากพืชที่ให้โปรตีนสูงถูกพูดถึงมาแล้วช่วงหนึ่ง ถามว่าแล้วประเทศไทยล่ะ เทรนด์ Plant-based Food มาหรือยัง แล้วเป็นโอกาสและความหวังจริงไหมในปี 2564
ในวิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ก็กลับทำให้เราได้เห็นแบรนด์และผู้ประกอบการที่ฉายแววเป็นนักสู้และเอาตัวรอดได้อย่างโดดเด่น จนเป็นที่จดจำและเป็นตัวอย่างให้กับธุรกิจอื่นหรือบุคคลทั่วไปได้นำไปปรับใช้และสร้างกำลังใจให้กับตัวเองได้
จากความรักในการทำเบเกอรีโฮมเมด ผสมรวมกับความรักที่มีต่อน้องแมวน่ารักๆ จึงก่อเกิดเป็น “เปี๊ยะเค้าแมว” และเบเกอรีแบรนด์อื่นๆ ในเครือตามมา เริ่มจากขายผ่านออนไลน์ สู่การรวมตัวแบรนด์เป็นร้านเบเกอรีโฮมเมดในนามว่า “I Eat Cake Café” ในที่สุด
เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการต่างๆ ก็ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย ไม่เว้นแม้แต่ “โชห่วย” หรือร้านค้าชุมชน หน่วยธุรกิจเล็กๆ ที่มีความผูกพันใกล้ชิดกับผู้บริโภคในพื้นที่ต่างๆ ค่อนข้างมาก
ในช่วงเวลาวิกฤต อุตสาหกรรมหนึ่งที่เติบโตอย่างโดดเด่นสวนกระแส หนีไม่พ้นอุตสาหกรรมอาหาร เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่คนจำเป็นต้องบริโภคเพื่อการดำรงชีวิต โดยเฉพาะบรรดาอาหารกระป๋อง เช่น อาหารทะเลกระป๋อง ผลไม้กระป๋อง รวมทั้งอาหารพร้อมทานและอาหารแช่แข็ง ที่ได้รับความนิยมสูงในการเป็นเส..
ความร้อนแรงของตลาดฟู้ดเดลิเวอรีในปัจจุบัน ทำให้ เจคิว ปูม้านึ่ง Delivery ต้องปรับแผนธุรกิจใหม่ ชูจุดแข็งให้ขาด เพื่อยืนหนึ่งบนความแตกต่าง พร้อมเตรียมตะกร้าไข่ไว้หลายใบ เป็นการปิดประตูความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสทางการแข่งขัน
จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลต่อรูปแบบการใช้ชีวิต รวมถึงความต้องการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์อาหารของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
จากผักกาดดองในโอ่ง ส่งขายตลาดนัด ยกระดับมามีโรงงานมาตรฐานถึง 2 โรงงาน ทำผลิตภัณฑ์ทุกเกรด ครอบคลุมทุกกลุ่ม ส่งขายทั้งในไทยและส่งออกไปตลาดโลก นี่คือแบรนด์ “ตราแม่บ้าน” ของดีจากจังหวัดราชบุรี