ความผิดหวัง และล้มเหลวเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจ ไม่ว่าใครก็ต้องเคยผ่านจุดนี้มาด้วยกันทั้งนั้น แม้แต่แบรนด์ดังระดับโลกที่ทุกวันนี้ธุรกิจเติบโตเป็นพันๆ เป็นหมื่นๆ ล้าน ก็เคยเจอวิกฤติเกือบล้มละลายมาแล้ว
ด้วยภาวะเศรษฐกิจและการฟื้นตัวด้านรายได้ที่ยังเปราะบาง ค่าครองชีพและราคาสินค้าบางรายการที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น กดดันกำลังซื้อของผู้บริโภคให้ยังคงวางแผนการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ส่งผลให้มูลค่าตลาด E-Commerce ปี 2565 น่าจะมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง
กระแสเรื่องของ ESG ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทขนาดใหญ่หรือบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์แต่เพียงอย่างเดียวแต่กำลังครอบคลุมไปถึงภาคธุรกิจขนาดกลางหรือเอสเอ็มอีด้วยเช่นกันซึ่งสถาบันการเงินจะนำเอาหลักการดังกล่าวไปพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อเงินกู้ด้วย
ในโลกธุรกิจ “ความแน่นอน ก็คือความไม่แน่นอน” ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งในหลายครั้งหลายเหตุการณ์นั้นแทบไม่มีเวลาให้ปรับตัวเลย หรือระยะเวลาให้ปรับตัวนั้นสั้นมาก
กว่า 5 ทศวรรษกับการเติบโตของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้ภายใต้แบรนด์ “DEESAWAT” (ดีสวัสดิ์) แม้มีช่วงที่ต้องสะดุดจากการผลัดเปลี่ยนมือของผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นคนก่อตั้งธุรกิจในลักษณะเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบดั้งเดิมฝังมุก
ในทุกจังหวะก้าวและจังหวะลุย ที่เป็นขาขึ้นของธุรกิจ เราสามารถใช้สัญชาติญาณ ในการตัดสินใจ และลุยไปข้างหน้าได้ แต่เมื่อมีปัญหา สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การหยุดให้เป็น!
การมีโรงงานรถยนต์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง นอกจากการจ้างงานภายในโรงงาน ก็ยังสร้างงานอื่นๆ ในชุมชนอีก 5 - 7 งาน ดังนั้นเมื่อถูกปิดจึงส่งผลกระทบกับคนจำนวนมาก เหตุการณ์ครั้งนั้นถูกบอกเล่าในหนังสารคดีเรื่อง The Last Truck: Closing of a GM Plant ที่ฉายทางช่อง HBO ในปี 2009
ในโลกปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ต่างขวนขวายความมั่งคั่งจากการเป็นผู้ประกอบการ บนถนนสู่การสร้างสตาร์ทอัพจึงคลาคล่ำหนาแน่นไปด้วยคนรุ่นใหม่ซึ่งปัจจุบันด้วยความที่ “เพศ” ไม่อาจแบ่งแย่งความสามารถ เราจึงเห็นผู้หญิงจำนวนมากก่อตั้งสตาร์ทอัพและนั่งเก้าอี้ซีอีโอ วันนี้เลยจะชวนดูภาพยนตร์ที่ฉายทางเน็ตฟลิกซ์เรื่อง “The Intern” (โก๋เก๋ากับบอสเก๋ไก๋) ที่แม้จะเป็นหนังตั้งแต่ปี 2015 แต่เนื้อหาไม่ตกยุคเลย
ในการทำธุรกิจนั้นมีต้นทุนแฝงอยู่มากมาย แค่เก็บของไม่เป็นที่เป็นทาง นอกจากพนักงานต้องเสียเวลาหาของแล้ว หาไม่ดีบางทีของก็ชำรุดเสียหายเหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุนทั้งสิ้น
หลังจากที่ LINE MAN WONGNAI ประกาศระดมทุนรอบซีรีส์บี มูลค่า 265 ล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัทมีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ (3.7 หมื่นล้านบาท) ขึ้นแท่นเป็นเทคสตาร์ตอัพที่ใหญ่ที่สุดของไทย ยอด ชินสุภัคกุล ได้ให้สัมภาษณ์ถึงรายละเอียดการระดมทุน และแผนการเติบโตในครั้งนี้
นกที่ตื่นเช้า ย่อมจับหนอนได้ก่อนใคร นั่นหมายถึงคนที่เริ่มต้นก่อนย่อมมีโอกาสมากกว่า เหมือนสาวออฟฟิศคนหนึ่งที่เธอมีแนวคิดว่าตื่นเช้าขึ้นแค่ 1 ชั่วโมงก็สร้างรายได้เพิ่มต่อเดือนได้ 2-3 หมื่นบาทได้เลยทีเดียว
ว่าด้วยอุณหภูมิที่ร้อนระอุของบ้านเรา หนึ่งในสินค้าขายดีตลอดกาลก็คงหนีไม่พ้นสินค้าช่วยคลายร้อน ซึ่งในแต่ละเซกเมนต์ก็มีเจ้าตลาดอยู่หลายแบรนด์ด้วยกันทำรายได้ปีๆ หนึ่งเป็นพันล้านบาท