Digital Marketing

4 เหตุผลที่ Startup มือใหม่มักตกม้าตายก่อนจะโต

 

Text : เจษฎา ปุรินทวรกุล    

     การที่เราจะเริ่มต้นทำธุรกิจนั้น มีเรื่องที่ต้องระมัดระวังอยู่มากมาย รวมถึงความผิดพลาดที่อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่พอเวลาผ่านไปกลับส่งผลกระทบเชิงลบต่อการทำธุรกิจในระยะยาวอย่างไม่น่าเชื่อ เรื่องที่ว่ามีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อมกัน



 

1.ไม่ศึกษาและวิเคราะห์ตลาด

     ผลการศึกษาจาก CB Insights บริษัทวิจัยด้านการลงทุนของ Startup พบว่า ผู้ประกอบการรายใหม่ไม่ประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นธุรกิจสูงถึง 42 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่เราต้องคิดวิเคราะห์ให้ตกผลึกก่อนก้าวเข้าสู่การทำธุรกิจ ก็คือการตั้งคำถามกับตัวเองว่า ผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราช่วยแก้ไขปัญหาหรือตอบสนองความต้องการใดให้กับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงเคยทดสอบตลาดและสอบถามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายโดยตรงหรือยัง เพราะบางครั้งสิ่งที่เราคิดกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการอาจสวนทางกันเลยก็ได้

2. ไม่ตั้งความคาดหวังของลูกค้า

     เมื่อเรามีผลิตภัณฑ์หรือบริการแล้ว เราจำเป็นต้องตั้งความคาดหวังของลูกค้าขึ้นมา เพราะสินค้าไม่ได้มีแค่การขาย แต่ยังรวมถึงการบริการทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นหลังจากลูกค้าซื้อแล้วนำไปใช้ด้วย และไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์หรือการบริการเท่านั้น พนักงานเองก็เป็นทั้งประตูบานแรกและกุญแจสำคัญของแบรนด์ เพราะฉะนั้นอย่าลืมอธิบายลักษณะงาน และความคาดหวังของลูกค้าให้พนักงานรับรู้และเรียนรู้อย่างละเอียด เพื่อให้มีความชัดเจน และรู้หน้าที่ให้มากที่สุด





3. ไม่เก็บข้อมูลเพิ่มเติม

     หลังจากเริ่มต้นธุรกิจแล้ว ช่วงเวลาหลังจากนี้คือ โอกาสในการเก็บข้อมูลที่ดีที่สุด การบันทึกข้อมูลทุกอย่างของลูกค้า ตั้งแต่ เพศ อายุ เมนูที่ลูกค้าชื่นชอบ ช่วงเวลาที่มีลูกค้าเยอะมากที่สุด ตลอดจนคำแนะนำต่างๆ ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลแล้วก็ต้องนำไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนาและตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ถูกต้องตรงจุด ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจให้กับเราได้  

4. ทำงานหนักมากเกินไป

     ความมุ่งมั่น ตั้งใจ และการทำงานหนักเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้เป็นเรื่องที่ดี แต่อย่าลืมว่าร่างกายเราไม่ใช่เหล็กไหลหรือเครื่องจักรที่กินน้ำมัน ดังนั้น อย่าลืมให้เวลาส่วนตัวเพื่อพักผ่อน และใช้เวลากับครอบครัวบ้าง ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กับการประชุมเรื่องการทำธุรกิจเหมือนกัน สอดคล้องกับงานวิจัยที่ตีพิมพ์โดย Harvard Business Review พบว่า การทำ Timeboxing นั้นมีประโยชน์มากๆ

     สำหรับเจ้า Timeboxing ก็คือ เครื่องมือช่วยจัดการเวลาที่รวมเอา To do List กับปฏิทินเข้าไปด้วยกัน เพื่อให้เราเห็นแผนและสิ่งที่ต้องทำล่วงหน้าได้อย่างชัดเจน เราจึงสามารถออกแบบชีวิตส่วนตัว และทำธุรกิจไปได้พร้อมๆ กันโดยที่ไม่มีอะไรตึงและหย่อนจนเกินไป   


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup