Digital Marketing

ไขข้อสงสัย PR vs Marketing ธุรกิจเริ่มใหม่ควรทำสิ่งไหนก่อน แล้วต้องเริ่มอย่างไรเพื่อให้เห็นผลด้านยอดขาย

เจษฎา ปุรินทวรกุล




     สมมติว่าเรามีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ยอดเยี่ยมอยู่ในมือ เราควรทำอะไรต่อดี ระหว่าง PR กับ Marketing เชื่อว่าหลายๆ คนคงมีคำตอบในใจ และอีกหลายๆ คนคงยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกอะไรดี สำหรับใครที่ยังไม่มีคำตอบ หรือเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ หรือไม่มีเงินทุนที่จะทำทุกอย่างพร้อมกัน ลองมาฟังแนวคิดจาก Stu Sjouwerman ผู้ก่อตั้งและ CEO แห่ง KnowBe4 บริษัทด้านความปลอดภัยไอทีในประเทศสหรัฐฯ ดูว่าเขาเลือกอะไร และเลือกเพราะอะไร
 

     ระหว่าง PR และ Marketing


     การประชาสัมพันธ์ (PR) กับการตลาด (Marketing) เป็นศาสตร์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง PR เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มเป้าหมายกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเราต้องการการบอกเล่าปากต่อปาก (Word of mouth) เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้ว่ามีผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราอยู่บนโลกใบนี้และเราพร้อมจะเริ่มต้นธุรกิจกับคุณแล้ว ในทางตรงกันข้าม Marketing เป็นเรื่องการส่งเสริมการขาย เป็นขั้นตอนต่อจากที่เรา PR ไปจนโลกรู้แล้วว่ามีเราอยู่ และบอกว่าเราจะขายอะไร ราคาเท่าไหร่ ขายที่ไหน ส่งช่องทางใด    
 




     ทำไม
PR ถึงต้องมาก่อน


     เมื่อพิจารณาถึงขั้นตอนการทำธุรกิจแล้ว ต้องบอกว่าในขวบปีแรกคงแทบไม่มีใครจดจำแบรนด์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราได้ เมื่อเรายังไม่เป็นที่รู้จักก็ย่อมไม่ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มเป้าหมายและลูกค้า การพยายามแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดและทำให้ลูกค้าจ่ายเงินซื้อสินค้าจนกลายเป็นลูกค้าประจำยิ่งยากเข้าไปใหญ่


     ลองนึกภาพว่าเราคือผู้ประกอบการรายใหม่ในตลาด ที่กำลังจะกระโดดเข้าสู่สมรภูมิทางการแข่งขันที่มีเจ้าตลาดรายใหญ่อยู่โดยที่เราไม่ได้มีเงินพร้อมรบด้านการตลาดกับใครเลย ดังนั้น ก่อนจะใช้เงินทุกบาทต้องคิดและวิเคราะห์อย่างรอบคอบ





     ทีนี้ถ้าเราเอาเงินไปลงทุนด้านการตลาดเพื่อให้ลูกค้ารู้จักเราก่อน ผลที่ตามมาก็คือเราต้องเพิ่มต้นทุนด้านการตลาดเข้าไปในสินค้าหรือบริการ และราคาขายก็ขยับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย เมื่อราคาสูงเกินไปลูกค้าอาจจะไม่ซื้อหรือหันไปหาคู่แข่ง หรือถ้าเราพยายามกดราคาให้เท่าคู่แข่งโดยที่กำไรน้อยเกินไปก็จะส่งผลในระยะยาวสำหรับการทำธุรกิจอีก
 

     แล้วควรเริ่มต้น PR จากตรงไหน อย่างไร


     สมมติว่าเราตัดสินใจแล้วว่าจะเริ่มต้นจากการ PR ขั้นตอนแรกที่ควรทำคือการมองหาใครที่น่าจะหรืออาจจะสนใจสินค้าหรือบริการชนิดนี้ และแจกสินค้าตัวอย่างให้กลุ่มเป้าหมายได้ทดลองใช้งานจริง ซึ่งแม้ว่ากลุ่มเป้าหมายอาจจะยังไม่ไว้วางใจเรามากนัก แต่สุดท้ายจะมีผู้ทดลองใช้งานจริงและเราจะได้รับ Feed Back กลับมา


     ถัดมาต้องสร้าง Content ผ่านช่องทางออนไลน์ เริ่มจากบล็อค เว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เกิดการรับรู้ไปในทิศทางเดียวกัน ในจังหวะนี้หากสินค้าพร้อมจำหน่ายแล้ว และมีโอกาสขายก็ไม่ควรพลาด





     ในระหว่างนี้ต้องพยายามพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้มีความรู้และเชี่ยวชาญในสินค้าหรือบริการของเรา เพื่อพลักดันตัวเองออกสื่อ เช่น เป็นแขกรับเชิญทาง Podcast วิทยุ วิทยากรการอบรมในหัวข้อ Inspiration หรือการสัมมนาต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ สถานที่เหล่านี้จะช่วยให้ตัวเรา แบรนด์ สินค้าและบริการเป็นที่รู้จักและเป็นที่จดจำได้มากยิ่งขึ้น
 

     เลือกใช้กลยุทธ์ที่น่าเชื่อถือสำหรับการลงทุน


     PR และ Marketing เป็นสององค์ประกอบที่สำคัญในการสร้างและดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าเราขายสินค้าหรือบริการให้กับคนที่ไม่ไว้วางใจเรา อาจกลายเป็นการเสียลูกค้าจาก Word of Mouth ได้ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการเริ่มที่ PR จึงเป็นคำตอบสำหรับ Stu Sjouwerman ซึ่งหากเราสามารถทำ PR เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายได้ตามแผนทั้งหมดครบ 1 ปีแล้วทำการตลาดแบบจริงจังต่อไป การขาย สร้างรายได้ และทำกำไร ก็ไม่ยากเกินฝีมือของเราแล้วละ
 

     แนวทางนี้ทำให้เรานึกถึงการสร้างเพจต่างๆ บน Facebook ได้เลย เพจดังๆ หลายเพจที่มีผู้ติดตามที่ชื่นชอบและเชื่อใจ แค่เพจโฆษณสินค้า ลูกเพจก็พร้อมที่จะซื้อตามแล้ว เรื่องแบบนี้คงต้องบอกว่าเกิดจากความสัมพันธ์ที่ดี และมีความไว้วางใจ (Trust) กันล้วนๆ
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup