จะขายออนไลน์หรือเปิดหน้าร้านดี? ยังเป็นคำถามยอดนิยมที่ผู้ประกอบการหลายคนต้องการคำตอบ เมื่อวันนี้การทำธุรกิจบนออนไลน์มีต้นทุนสูงขึ้น การแข่งขันรุนแรงขึ้น
เคยคิดสงสัยไหมว่า สินค้าที่เราผลิตออกมาก็แสนดี คุณภาพก็แสนเด่น แต่ทำไมสินค้าเหล่านั้นจึงไม่ได้รับการตอบรับที่ดีมากพอเท่าที่เราตั้งใจ นั่นอาจเป็นเพราะการสื่อสาร ตลาดกลุ่มเป้าหมาย ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนพาให้ธุรกิจไม่ถึงฝั่งฝัน
ยอดขายสินค้าและบริการของธุรกิจที่ลดลงไป อาจไม่ใช่สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ แต่พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป นิยมการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น เพราะความสะดวก ที่สำคัญราคาถูกกว่า คู่แข่ง SME จึงมีอยู่รอบโลก
การเติบโตของเทคโนโลยีและสื่อออนไลน์ บวกกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวของชาวจีนเปลี่ยนไป! โดยเน้นเที่ยวเอง นิยมของหรู ดูของแปลก และยอมจ่ายไม่อั้นให้กับบริการที่ถูกใจ นี่จึงเป็นโอกาสธุรกิจที่ผู้ประกอบการไทยจะมองข้ามไม่ได้!!
รู้จักกลยุทธ์ Foe is Friend มุมคิดการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ ที่จะเปลี่ยนคู่แข่งมาเป็นมิตร เปลี่ยนอุปสรรคธุรกิจให้กลายเป็นโอกาส เพื่อออกจากข้อจำกัดเก่าๆ ไปสู่ถนนแห่งความสำเร็จเส้นทางใหม่ ที่ทุกคนจะวิ่งเข้าเส้นชัยไปพร้อมกัน
เราอยู่ในโลกที่มีอินเตอร์เน็ตอยู่รอบตัว ร้านค้าไหนมี WiFi ให้บริการฟรีย่อมดึงดูดลูกค้าให้ไปใช้บริการได้มากกว่า แถมยังสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือทำการตลาดได้มากกว่านั้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำตลาดออนไลน์ช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าได้มาก และรวดเร็ว แต่เคยคิดไหมว่า ทำไมยิ่งทำยิ่งคิดกลับเหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่าง ทำแทบตายแต่ไม่ได้ช่วยเพิ่มยอดขายสักเท่าไหร่ หรือที่ทำไปมันแค่ “การตลาดหลงทิศ” แล้วการตลาดที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ มาหาคำตอบในเรื่องนี้กัน!
ลืมเรื่องยากๆ ของตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำตลาดของแบรนด์ไปได้เลย เมื่อปรมาจารย์ด้านการตลาดระดับโลกอย่าง Seth Godin บอกว่า แค่ 1 คำถามก็บอกได้แล้วว่า การตลาดที่ทำอยู่นั้นมันเวิร์กหรือไม่
เคยคิดสงสัยไหมว่า ทำไมวิดีโอบางตัวจึงได้รับความนิยมชื่นชอบจากคนดู ทั้งที่บางครั้งอาจเป็นโฆษณาสินค้า แต่ทำไมวิดีโอบางตัว แม้จะตั้งใจทำออกมาอย่างดีที่สุด แต่กลับไม่ค่อยถูกพูดสักเท่าไหร่นัก
หลังจากที่เฟซบุ๊กได้ส่งสัญญาณให้สื่อและแบรนด์ต่างๆ ที่ทำคอนเทนต์ในเฟซบุ๊กว่าเขาจะลดการมองเห็นลงเพื่อสร้างสังคมในเฟซบุ๊กที่เน้นเรื่องของการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวและเพื่อนมากขึ้น สื่อและแบรนด์จึงต้องเริ่มขยับตัวให้เร็ว เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ไว ไม่ยึดติดและพึ่งพิงเฟซบุ๊กมา..
ทันทีที่สหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลง TPP โควต้าส่งออกข้าวไปญี่ปุ่นจำนวน 70,000 ตันของสหรัฐฯ ยุติลง ทำให้ส้มหล่นใส่ออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคญี่ปุ่น เพราะใช้สารเคมีน้อยในการปลูก ได้คุณภาพ ที่สำคัญราคาต่ำ
การแข่งขันรุนแรงและไม่เคยหยุดนิ่ง หลายๆ คนมองหาวิธีทำให้ธุรกิจโตยังไงให้แตกต่าง การมีกลยุทธ์ดี กลยุทธ์เด็ด เหมือนเป็นอาวุธให้ธุรกิจ ไม่ต้องลงไปแข่งแย่งชิงตลาด Red Ocean แต่สามารถก้าวกระโดดมายืนเด่นให้คู่แข่งตาร้อนได้!!