ปฏิเสธไม่ได้ว่าพ่อค้าแม่ขายออนไลน์ทั้งหลายจะต้องพึ่งพาการบริการขนส่งสินค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการจัดส่งสินค้าที่เร็วถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย  ถือเป็นการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า หากลูกค้ามีปัญหากับสินค้าที่ได้รับเช่น ของชำรุดเสียหาย หรือส่งช้า จนรู้สึกไม่ประทับใจแล้วล่ะก็มีโอกาสที่จะหันไปใช้บริการร้านค้าออนไลน์อื่นๆ ดังนั้น เรื่องของการส่งของจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องใส่ใจเพื่อมัดใจลูกค้าให้อยู่กับเราไปอีกนานๆ  และนี่คือเทคนิคในการเลือกการบริการโลจิสติกส์หรือการบริการขนส่งสินค้าเพื่อจะได้ไม่ผิดหวัง 

 

 

     ควรจะเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีชื่อเสียง โดยอาจจะดูจากประวัติการดำเนินธุรกิจมานานหรือยัง มีระบบการบริหารจัดการเป็นอย่างไร มีพนักงานมากน้อยแค่ไหน การบริการครอบคลุมแค่ไหน ซึ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่าบริษัทนี้มีการทำงานที่มีประสิทธิภาพ  ทุกขั้นตอนตั้งแต่กระบวนการการรับสินค้า การขนถ่ายสินค้า ไปจนถึงการจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง สามารถส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างตรงเวลาและปลอดภัยอย่างแน่นอน 

 

 

    2. เช็คประวัติว่าเคยมีกรณีการโดนร้องเรียนหรือไม่  

    โดยอาจจะต้องดูประวัติการจัดส่งสินค้าในแง่ความรวดเร็ว ความตรงเวลา และสินค้าจนถึงมือลูกค้าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่ชำรุดเสียหาย ประวัติเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและพิถีพิถันในทุกขั้นตอนของการจัดส่งสินค้า  

 

 

    ถ้ามีเทคโนโลยีที่ทันสมัยก็ช่วยลดความผิดพลาดต่างๆ ได้ รวมไปถึงทำให้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างเช่นการมีระบบติดตามระหว่างขนส่งที่แม่นยำ จะทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะสินค้าของตัวเองได้อย่างง่ายสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบผ่านทางเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นบนมือถือก็ตาม   

 

 

    4.ต้นทุนและค่าใช้จ่าย

    หากผู้ประกอบการมีต้นทุนในการจัดส่งสินค้าที่ต่ำ การเลือกผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ก็ต้องให้มีความพอเหมาะพอดีกับต้นทุนด้วยที่วางเอาไว้ด้วย  

 

 

    5.การชำระเงิน

    ควรมองหาผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่มีตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย เช่น เครดิตการ์ด หรือการชำระเงินปลายทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และเกิดความพึงพอใจ และยังส่งผลด้านบวกให้กับธุรกิจอีคอมเมิร์ซด้วยครับ และบริการชำระเงินปลายทาง (COD) สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกชำระเงินออนไลน์