Digital Marketing

ส่องความลับนกสีฟ้า กับพฤติกรรมผู้บริโภคไทยที่ใช้ทวิตเตอร์ซื้อสินค้า




Main Idea
 
  • กว่า 72% ของผู้ใช้ทวิตเตอร์มักใช้ค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ความงามใหม่ๆ เป็นเหตุให้แบรนด์ความงามนิยมเปิดตัวสินค้าในทวิตเตอร์เป็นที่แรก  
 


     เพราะความไวของทวิตเตอร์ที่โดนใจวัยรุ่นแล้ว แพลตฟอร์มนี้ยังเป็นคอมมูนิตี้สำหรับผลิตภัณฑ์บิวตี้ของประเทศที่ถือว่ามีแพสชั่นและมีเอ็นเกจเม้นต์สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นการทวีตถึงเทรนด์ใหม่ล่าสุด รวมถึงการแบ่งปันความคิดเห็นต่อแบรนด์สินค้าทั้งไทยและแบรนด์ต่างชาติ

 
     จากรายงานของ Euromonitor International บริษัทวิจัยการตลาดชั้นนำ เรื่อง “เทรนด์ความงามและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวของชาวเอเชีย” ระบุว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดของโลกในด้านของความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ซึ่งคิดเป็น 32% ของตลาดโลก และประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดของภูมิภาคนี้ที่เติบโตเร็วที่สุด ในปีที่ผ่านมามีบทสนทนาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลบนทวิตเตอร์ประเทศไทยมากถึง 60 ล้านทวีต





     นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจอีกคือ
 
 
     77% ของผู้ใช้งานทวิตเตอร์ในประเทศไทย มีความสนใจในเรื่องของการดูแลผิวพรรณและร่างกายของตัวเอง
 
     และ 1 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้มีความสนใจในเรื่องเครื่องสำอางเป็นอย่างมาก จากข้อมูลดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับตลาดความงามบนทวิตเตอร์ที่มีความแอคทีฟได้เป็นอย่างดี
 
     แบรนด์ไทยและแบรนด์ต่างชาติต่างเลือกเปิดตัวผลิตภัณฑ์ความงามบนทวิตเตอร์เป็นที่แรก ตลอดจนการใช้เป็นพื้นที่ในการพูดคุยสร้างสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายสนใจในเรื่องความงาม และเป็นการสร้างการจดจำให้กับแบรนด์ด้วยการทำแคมเปญที่สร้างสรรค์ไปจนถึงการสร้างเอ็นเกจด้วยบทสนทนาเรื่องความสวยงาม พร้อมเก็บข้อมูลความต้องการเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมาย

 
     ใครบ้างที่สนใจด้านความสวยความงามบนทวิตเตอร์?


     ผู้คนบนทวิตเตอร์ที่สนใจด้านความงามจะมีแพสชั่นในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และอยากเป็นคนแรกที่ค้นพบ ต้องการซื้อและทดลองเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงามใหม่ๆ โดย


     72% เข้าทวิตเตอร์เพื่อค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ความงามใหม่ๆ


     มากกว่า 50% อยากจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ซื้อและได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น


     กลุ่มผู้หญิงมีสัดส่วนถึง 62% ที่สนทนาและแสดงความเห็นในเรื่องของความงามบนทวิตเตอร์ประเทศไทย ในขณะที่การพูดคุยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลนั้นเริ่มขยายถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ชายมากขึ้นเช่นกัน สำหรับแบรนด์ที่ปรับตัวได้ทันกับยุคสมัยจึงมักจะเลือกใช้ทวิตเตอร์เป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้จากข้อมูลที่มีอยู่ด้วยวิธีการต่างๆ ที่สร้างสรรค์


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup