การทำธุรกิจในยุคดิจิทัล ไม่เพียงแต่สามารถเริ่มต้นได้เร็วกว่าเท่านั้น แต่ยังใช้ทุนที่ต่ำกว่าอีกด้วย โดยเฉพาะการทำธุรกิจออนไลน์ที่มีโซเชียลมีเดียในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงมาร์เกตเพลสที่เป็นช่องทางในการนำเสนอสินค้าไปยังผู้บริโภคโดยตรง อย่างไรก็ตาม แม้จะมี 2 เครื่องมือการตลาด และการขายที่สร้างโอกาสได้เป็นอย่างดีแล้ว สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ ยังอาจจะต้องการตัวช่วย เพื่อให้การเริ่มต้น และสามารถไปต่อได้ง่ายยิ่งขึ้น
สินค้า SME หลายๆ ชิ้น มีจุดเริ่มต้นจากความต้องการแก้ปัญหาใกล้ตัวบางอย่างของเจ้าของ เช่นเดียวกับแบรนด์ “Happy Munchy” แบรนด์สินค้าอาหารจากความร่วมมือของ 3 คุณแม่คนดัง
สองปีกว่าที่เราใช้ชีวิตอยู่กับไวรัสโควิด-19 “New Normal” คือ คำฮิตคุ้นหูที่เกิดขึ้น แต่รู้ไหมในโลกของกาแฟคำๆ นี้เคยเกิดขึ้นมานักต่อนักแล้ว
เพราะการทำธุรกิจ หลายคนต้องเจอกับความเครียดจากความคาดหวัง โดยเฉพาะความคาดหวังกับตัวเอง อยากประสบความสำเร็จ อยากรวย อยากได้รับการยอมรับ นี่อาจทำให้คุณเป็นโรคเครียดหรือพัฒนาเป็นโรคซึมเศร้าโดยไม่รู้ตัว
เผลอแพร๊บเดียว เดือนมกราคมผ่านพ้นไปแล้ว เมื่อวันก่อนมีโอกาสนั่งคิดทบทวนถึงสิ่งที่ผ่านไปว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างและได้เรียนรู้อะไรในช่วงที่ผ่านมา นี่คือ 6 บทเรียนที่สถานการณ์วิกฤตสอนผม
ผู้ก่อตั้งร้านและหุ้นส่วนมองเห็นโอกาสในวิกฤติ จึงสามารถพลิกสถานการณ์ แตกไลน์ไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่เพียงทำให้ธุรกิจอยู่รอด แต่กลับกลายเป็นแหล่งสร้างรายได้หลักอีกช่องทางหนึ่งของบริษัท ก่อนจะไปต่อกันถึงกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่คาเฟ่เดลิสนำมาใช้
เมื่อตอนนี้แพลตฟอร์ม Social Commerce ที่หลายคนนิยมอย่าง Facebook กำลังปิดกั้นการมองเห็นของเพจต่างๆ อย่างรุนแรง หลายคนจึงเริ่มขยายธุรกิจไปขายในแพลตฟอร์มอื่น
อย่างที่รู้กันในช่วงปีแรกของการเริ่มต้นทำธุรกิจนับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เพราะหลายธุรกิจมักไปไม่รอด ผู้ประกอบการหลายคนเจอปัญหาอุปสรรคมากมายจนเกิดความท้อ
สะ-ระ-แหน่ (Saranae By T.House) ร้านอาหารไทย-อีสาน ที่ตกแต่งภายในอย่างสวยงามด้วยชะลอมเครื่องจักสานและดอกไม้แห้งตามมุมต่างๆ ที่สื่อถึงความเป็นไทยอีสาน พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูรสชาติจัดจ้าน แซ่บ และครบเครื่อง
ใครจะคิดว่าเพราะความเป็นสาวนักช้อป ที่รักการช้อปปิงเป็นชีวิตจิตใจ จนรู้ว่าที่ไหนแบรนด์อะไร มีโปรโมชันดีๆ และเพียงเพราะอยากบอกต่อโปรโมชันเด็ดๆ เหล่านั้นให้กับเพื่อนๆ จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจ
มีการคาดการณ์ว่าในปี 2024 ตลาดกาแฟในจีนจะมีมูลค่าเกิน 330,000 ล้านหยวน และจะเติบโตปีละราว 10 เปอร์เซนต์ตลอด 5 ปีข้างหน้า
สำหรับในการทำธุรกิจไม่ว่าจะทำธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่นั้นไม่สำคัญ แต่อยู่ที่เก่ง หรือไม่เก่ง ต้องมีแนวคิดที่ยั่งยืนและเมื่อเจอกับอุปสรรคก็สามารถที่จะปรับตัวและนำพาธุรกิจไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว