โลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมทั้งเทรนด์การค้าก็เช่นกัน หากผู้ประกอบการรับมือไม่ทันก็อาจทำให้แข่งขันลำบาก
อากาศยิ่งแปรปรวนผู้คนก็ยิ่งตระหนักถึงต้นตอของปัญหา ทำให้หลายฝ่ายเริ่มหาวิธีที่จะหยุดภาวะโลกร้อน ซึ่งรวมไปถึงภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ส่งออกที่ควรทำความเข้าใจ เร่งปรับตัวเพิ่มประสิทธิภาพและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต เพื่อลดต้นทุนและรักษาตลาด โดยเฉพาะในสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ที่จะมีการบังคับใช้กฎหมายในการเก็บค่าธรรมเนียมคาร์บอนสำหรับการนำเข้าสินค้า
หนึ่งในโมเดลที่หลายคนให้ความสนใจในการขยายธุรกิจคือ การแปลงธุรกิจของตัวเองให้กลายเป็น “แฟรนไชส์” แต่หลายคนอาจสงสัยว่า การทำธุรกิจให้เป็นแฟรนไชส์ ต้องทำอย่างไร?
ทุกวันนี้ด้วยวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal) ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อของออนไลน์ สั่งอาหารมาทานที่บ้าน การสวมหน้ากากอนามัย ล้วนเป็นตัวเร่งจำนวนปริมาณขยะทั่วโลกให้เพิ่มมากขึ้น ซ้ำเติมวิกฤตโลกร้อนและ Climate Change ให้รุนแรงยิ่งขึ้น คาดว่าในหลายๆ ประเทศจะกลับมาให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การทำฟาร์มเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา เลี้ยงหอย หรือสัตว์น้ำอื่น ๆ อาจไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ผ่านมา เคยมีใครได้ฟังหรือได้ยินเกี่ยวกับการทำฟาร์มเพาะปลาหมึก (ซึ่งไม่ใช่ปลา) หรือไม่ แน่นอนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ในยุคหนึ่งอาชีพราชการเคยเป็นที่ใฝ่ฝันของใครต่อใครหลายคน แต่มาถึงยุคนี้อย่าว่าแต่อาชีพราชการ หลายๆ อาชีพที่เคยเป็นคณะยอดนิยมในมหาวิทยาลัยก็ยังเปลี่ยนไป และนอกรั้วมหาวิทยาลัยก็มีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายทุกวันนี้
ว่ากันว่าบางคนไม่ได้ Born to be ต้องพยายาม Try to be ยิ่งในยุคที่มีสื่อโซเชียลคนกลุ่มนี้ก็มักใช้พื้นที่นี้แสดงตัวตนผ่านการโพสต์
สิ่งแวดล้อมยังเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ โดยเฉพาะสหภาพยุโรปได้เดินหน้าในการในเรื่องการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate change) อย่างต่อเนื่อง ตามแผน European Green Deal นอกเหนือจากมาตรการจัดเก็บภาษีคาร์บอนสำหรับสินค้าข้ามแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) สำหรับกลุ่มสินค้าที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมากที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2566
ชาวเกาหลีใต้บางคนกำลังเครียดมาก จึงทำงานหาเงินเพื่อเอามาซื้อช่วงเวลาที่พวกเขา “ไม่ต้องทำอะไรเลย” ในพื้นที่ที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าเก้าอี้สบายๆ และวิวธรรมชาติที่สวยงาม
การเดินทางหลังจากนี้จะเปลี่ยนไปเพราะนักท่องเที่ยวยุคใหม่ใส่ใจเรื่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมากขึ้น Booking.com จึงเปิดตัวตราสัญลักษณ์ Travel Sustainable เพื่อเป็นการชี้เป้าให้นักเดินทางทั่วโลกที่ต้องการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนตัดสินใจเลือกที่พักได้ง่ายขึ้น
แม้คนจะใส่ใจสิ่งแวดล้อมและความยังยืนมากขึ้น แต่ในยุคเงินที่เงินเฟ้อและข้าวของแพงขึ้นพวกเขาก็ยังไม่พร้อมจ่ายเพิ่มให้กับสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแต่ต้องซื้อเป็นประจำทุกวัน