การทำธุรกิจในยุคดิจิทัล ไม่เพียงแต่สามารถเริ่มต้นได้เร็วกว่าเท่านั้น แต่ยังใช้ทุนที่ต่ำกว่าอีกด้วย โดยเฉพาะการทำธุรกิจออนไลน์ที่มีโซเชียลมีเดียในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงมาร์เกตเพลสที่เป็นช่องทางในการนำเสนอสินค้าไปยังผู้บริโภคโดยตรง อย่างไรก็ตาม แม้จะมี 2 เครื่องมือการตลาด และการขายที่สร้างโอกาสได้เป็นอย่างดีแล้ว สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ ยังอาจจะต้องการตัวช่วย เพื่อให้การเริ่มต้น และสามารถไปต่อได้ง่ายยิ่งขึ้น
สองปีกว่าที่เราใช้ชีวิตอยู่กับไวรัสโควิด-19 “New Normal” คือ คำฮิตคุ้นหูที่เกิดขึ้น แต่รู้ไหมในโลกของกาแฟคำๆ นี้เคยเกิดขึ้นมานักต่อนักแล้ว
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีกระแส “ที่สุดของการโฆษณา” เกิดขึ้น จากเพจของ คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา จึงขออนุญาตหยิบยกกรณีศึกษานี้มาพูดคุยกันเรื่อง Marketing 5.0
งานคิดและงานครีเอทีฟ คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานคิดขึ้นมาใหม่ๆ หรืองานสร้างสรรค์ดัดแปลงจากสิ่งที่มี
สำหรับในการทำธุรกิจไม่ว่าจะทำธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่นั้นไม่สำคัญ แต่อยู่ที่เก่ง หรือไม่เก่ง ต้องมีแนวคิดที่ยั่งยืนและเมื่อเจอกับอุปสรรคก็สามารถที่จะปรับตัวและนำพาธุรกิจไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว
ในปัจจุบัน Tiktok เป็นแฟลตฟอร์มยอดนิยมที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ เพราะว่าหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการล็อคดาวน์ทั่วโลก ทำให้ในช่วงสองปีที่ผ่านมา คอนเทนต์รูปแบบวิดีโอสั้น (Short Video) มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนว่าช่วงวันเวลาที่ลูกค้าเคยใช้บริการโรงแรมแล้วได้กับการดูแลดุจนายกับบ่าวมีแนวโน้มสิ้นสุดลง และลูกค้าที่เข้าพักโรงแรมอาจต้องบริการตัวเองมากขึ้น
นับเป็นอีกหนึ่งข่าวดีเมื่อภาครัฐ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม เปิดแนวทางการส่งเสริมผู้ประกอบการ และภาคธุรกิจอุตสาหกรรมผ่านนโยบาย “ดีพร้อมแคร์ : DIPROM CARE” สนับสนุนภาคธุรกิจให้เติบโต
เทรนด์ของเทคโนโลยีการเงินหรือฟินเทคยังคงเป็นเมกะเทรนด์ที่มีโอกาสจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในปี 2022
หากพูดถึงธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ที่คุณภาพดีราคาไม่แพงก็ต้องยกให้แบรนด์ “อิเกีย” จากสวีเดนที่ขึ้นแท่นร้านขายเครื่องเรือนและของใช้ในบ้านที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก
อีกประมาณหนึ่งปีที่รัฐบาลได้กำหนดให้มีการเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว รวมทั้งส่งเสริมให้มีการนำพลาสติกกลับมารีไซเคิล
แม้ว่าเทรนด์อาหารสุขภาพกำลังมาแรงในทั่วโลก แต่เรากลับพบว่าคนไทยกินอาหารเค็มกันมากขึ้น ล่าสุดในช่วงปลายปี 2564 เราก็ได้เห็นความเคลื่อนไหวจากภาครัฐที่เตรียมเก็บภาษีความเค็มจากกลุ่มอาหารโซเดียมสูงเพื่อให้คนไทยลดการบริโภคอาหารรสเค็มลง