ธุรกิจเล็กอาจไม่มีงบมาก แต่ถ้ารู้จัก “Trust Economy” ก็สร้างแบรนด์ให้เติบโตเร็วกว่าได้ แม้ไม่มีงบโฆษณาหลักล้าน เพราะในยุคที่ข้อมูลปลอม รีวิวปลอม และการตลาดที่พูดเกินจริงล้นโซเชียล “ความเชื่อใจ” กลายเป็นสินค้าหายากที่สุดในตลาดวันนี้
ในโลกการตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทุกวันนี้ การติดตามเทรนด์สังคมต่างๆ มีความสำคัญอย่างมากในการแข่งขันระหว่างแบรนด์ ขณะที่ความชอบและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ใครจะคิดว่า สินค้าอย่าง “อะไหล่รถบรรทุก” จะมีขายในช่องทางออนไลน์อย่าง Facebook, Shopee, Lazada, TikTok ได้ จนกลายเป็นโอกาสทำเงินใหม่ๆ ให้กับธุรกิจในเครือ NTPS Group ผู้นำด้านการขนส่งขนาดใหญ่ในภาคเหนือ ที่มีความเชี่ยวชาญในสนามมานานกว่า 30 ปี
การสร้างแบรนด์และคุณค่าให้กับสินค้าเป็นสิ่งสำคัญของผู้ประกอบการ SME แต่หลายครั้งความคิดสร้างสรรค์ก็มาพร้อมการละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาแบบไม่ได้ตั้งใจ มีให้เห็นกันอยู่ตลอดเวลา
ในปัจจุบันการขายของออนไลน์ให้อยู่รอดและได้กำไร เป็นเรื่องที่ไม่ได้ง่ายเลยทีเดียว บางคนขายของไม่เก่ง ไม่กล้า Live ทำให้เสียโอกาสช่องทางขายไป แต่อาจแก้ไขได้ด้วยการทำ Content นอกจากช่วยแก้ปัญหาแล้วยังสาสามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเหมือน Youtuber, Tiktoker ด้วย
เจ้าของ SME หลายท่านคงเคยคิดที่จะใช้ดารา / Celebrities / Influencers มาเป็น Presenter เพื่อโปรโมทแบรนด์หรือสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์มากขึ้น แล้วจริงๆ ความเริ่มต้นอย่างไร ไปดูกัน
ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว การทำธุรกิจในปัจจุบัน 80% เป็นเรื่องของ Content “Better Story Telling Better Valuation” ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องใช้ Content Creator ในการช่วยสื่อสารถึงผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องเป็นดารา คุณเองก็สามารถทำได้ จุดสำคัญอยู่ที่ “เนื้อหาหรือคอนเทนต์”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการค้าออนไลน์ได้กลายเป็นเสมือนเส้นทาง fast track สู่ความสำเร็จแก่เจ้าของธุรกิจและสตาร์ตอัพมากมาย แต่ในขณะเดียวกัน ถนนสายนี้ก็เต็มไปด้วยคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นทุกวัน สิ่งหนึ่งที่จะทำให้คุณสามารถแข่งขันและมีโอกาสเข้าถึงออร์เดอร์ได้อย่างสม่ำเสมอคือ “ความน่าเชื่อถือ”
META ออกมาเผยรายงาน Widely Viewed Content ไตรมาส 3 ปี 2022 ใจความสำคัญ คือ เฟซบุ๊กให้ความสำคัญกับโพสต์ที่เพื่อนแชร์มากที่สุด แสดงเนื้อหาจากเพจน้อยที่สุด
นามบัตรดิจิทัล ตัวช่วยแบ่งปันข้อมูลและเก็บข้อมูลต่างๆ ของลูกค้าไว้ในมือถือ มีขั้นตอนที่ง่าย และสะดวก โดยการสแกนแลกเปลี่ยนนามบัตร และช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย ที่สำคัญเมื่อพนักงานลาออกข้อมูลต่างๆ ก็ยังอยู่กับองค์กร ไม่หายไปไหน
มีคนจำนวนไม่น้อยที่รักและอยากพัฒนาบ้านเกิด ดังนั้นแม้จะทำงานในต่างประเทศที่สร้างรายได้ให้มากมาย แต่สุดท้ายแล้วก็ขอหวนกลับไปเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ ในท้องถิ่นของตัวเอง รวมถึง น่าน-ภารดี นนทมิตร ใช้พื้นที่สวนของที่บ้านเปิดคาเฟ่ Par.D cafe ในอ.พรหมคีรี
นี่คือเรื่องราวของแบรนด์เนยถั่วสุดคลีนอย่าง Adaily.factory ที่เกิดจากคนชอบทำขนมและมีเวลาว่างในช่วงโควิดพอดี ทำให้เธอได้ปั้นธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง ทำคนเดียวทุกอย่าง จากรายได้หลักหมื่นสู่โรงงานเนยถั่วหลักล้าน